กรุณาเลือก อุปกรณ์เคลื่อนที่ | แสดงผลรูแบบคอมพิวเตอร์
ดู: 2551|ตอบ: 32

นยว : Mission from the Moon (ภารกิจพิทักษ์ราตรี)

[คัดลอกลิงก์]
 
 มีนามว่าjojo741963 
 สมาชิกคนที่
 เพศ 
 ระดับการอ่าน200 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Flybee (C)
เจลลี่ บี
     
โพสต์เมื่อ 2018-2-2 23:43:31 | แสดงโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jojo741963 เมื่อ 2018-5-18 16:04

Guardian Master : Mission from the Moon
ภารกิจพิทักษ์ราตรี

อารัมภบท

        เป็นเวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้ว หลังจากที่ภารกิจ ปกป้องเกรเทียสฝั่งตะวันตก ได้จบลง เหล่าการ์เดี้ยนก็ได้ทำภารกิจต่างๆ นานา อีกต่อเนื่องเป็นเวลานานแสนนาน จนความประมาทได้เกิดขึ้นในเศษเสี้ยวเล็กๆ ของหัวใจการ์เดี้ยนทุกคน ว่าต่อจากนี้ไซเบิร์ธ คงจะมีแต่ความสงบสุขต่อไปอีกตลอดไป

        หากแต่มันหาใช่สิ่งนั้นไม่…

        ถัดไปไม่ไกลจากอาณาจักรเกรเทียสทางด้านทิศเหนือ ที่มีติดกับอาณาเขตดินแดนแห่งธรรมชาติ ดิเพน ยูนิกัส ที่มีถ้ำแคร็กมัซ ตั้งอยู่ ซึ่งอุดมไปด้วยมอนเตอร์อันดุร้าย และแสนอันตราย
        เสียงฝีเท้าของร่างหนึ่งกำลังวิ่งอยู่อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย

        “แฮ่ก แฮก..” หญิงสาวตัวน้อยหอบเบาๆ อยู่ขณะที่กำลังเร่งฝีเท้าอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต

        บางอย่าง กำลังตามเธอมาอยู่
        รองเท้าผ้าใบสีส้มที่ร้อยเชือกสีน้ำตาลอย่างหนาแน่นคู่นั้นกำลังเคลื่อนที่ไปพร้อมกันกับกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลแก่ ที่กวัดแกว่างสไหว เพราะแรงเหวี่ยงจากลำตัวเด็กสาว ที่เธอพยายามเคลื่อนตัวอยู่ตลอด เพื่อไม่ให้สิ่งนั้นตามมาถึงเธอ

        บางอย่าง กำลังกระโดดไปตามกิ่งไม้
        เธอหลบร่างของตัวเองไปทางซ้าย เพื่อไม่ให้ชนกับต้นไม้ใหญ่ที่มักจะตั้งขวางอยู่เป็นระยะ ราวกับรอคอยนักเดินทางสักคนที่หวังว่าจะวิ่งแล้วมาชนกับมันเข้า เส้นผมสีเหลืองปลิวไปตามการเคลื่อนไหวของร่างนั้น

        บางอย่าง กำลังยิ้มแสยะอย่างน่าสยดสยอง
        ซองจดหมายในมือถูกกำไว้แน่น ทำให้มันค่อนข้างจะชุ่มไปด้วยเหงื่อภายใต้ถุงมือสีขาวของร่างอันบอบบางนั้น หูกระต่ายบนศีรษะที่เหมือนแต่งตัวมาคอสเพลย์ และชุดเดรสสีครีม เริ่มที่จะเหนื่อยล้า และไม่อาจจะฝีนไปได้มากกว่านี้แล้ว

        “อีกไม่ไกลแล้ว” เธอพึมพัมอยู่ในใจ

        แต่แล้วดวงตาอำพันก็เปิดกว้าง ในจังหวะเดียวกับที่ร่างของเธอหยุดชะงัก บางอย่างได้เข้ามาหยุดอยู่ที่ตรงหน้าของเธอแล้ว

        “ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ !”
        เด็กหนุ่มผมสีดำที่บดบังดวงตาข้างหนึ่งของตนเอาไว้ เอ่ยถามออกมาจากทิศที่ตรงกันข้ามของเด็กสาว

        “ชิ ! มนุษย์” บางอย่างที่อยู่ตรงนั้น กระโดดหายออกไปจากพื้นที่ในทันที

        “ผมถามว่าใครน่ะ ใช่คนที่ให้ผมเอาของมาส่งรึเปล่า”
        การ์เดี้ยนโซริ ค่อยๆ ย่างก้าวออกมาจากพุ่มไม้ พร้อมกับมืออีกข้างที่ถือถุงใบใหญ่อยู่
        ร่างของเด็กสาวไม่ได้ตอบอะไร ดวงตาสีเหลืองสดใสกำลังจะหริบหรี่ลง  พลาสเตอร์ที่แปะบนแก้ม เหมือนกำลังพยายามบอกว่าเป็นการเดินทางที่สาหัส เธอค่อยๆ พยุงร่างที่พร้อมจะปลิวไปตามลมได้ทุกเมื่อนั้น เข้าไปหาเด็กหนุ่มตรงหน้า

        “ภารกิจ… สิ่งนี้… หะ.. การ์เดี้ยน”

        ประโยคสุดท้ายได้ถูกกล่าว ก่อนที่เด็กสาวจะสลบลงไปต่อหน้าโซริ ในขณะที่เธอกำลังยื่นจดหมายในมือออกมาให้เขา

        “เฮ้ ! เดี๋ยวก่อน ทำใจดี ๆ ไว้นะ”
        โซริพุ่งเข้าไปรับเด็กสาวตรงหน้า

        “ชื่อ บอกชื่อของเธอมา!”

        นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่สติของเธอจะหมดลง




นิยายเว็บ OVA ที่แต่งขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบเว็บปี 7 ที่ใกล้จะถึงนี้จ้า




คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 4FAME +20 ย่อ เหตุผล
Cookiez + 5
klakung25 + 5
KZGtaye + 5
acet + 5

ดูบันทึกคะแนน

 
 มีนามว่าoSolitaryo 
 สมาชิกคนที่38 
 เพศ 
 ระดับการอ่าน90 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Snowlob (S) ★
Olivia
     
โพสต์เมื่อ 2018-2-2 23:59:37 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย oSolitaryo เมื่อ 2018-2-3 00:40

ทำไมต้องเป็นฉัน..

แสดงความคิดเห็น

แต่มันเป็นชื่อเรื่องเดียวกันนะ !!  โพสต์เมื่อ 2018-2-3 15:32
อ่านชื่อนิยายดิ... Spoil : นี่คนละไทม์ไลน์กันนะ โพสต์เมื่อ 2018-2-3 14:35
 
 มีนามว่าacet 
 สมาชิกคนที่164 
 เพศ 
 ระดับการอ่าน50 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

     
โพสต์เมื่อ 2018-2-3 14:02:27 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ไม่สนใจสร้างเป็นเกมหรอครับ

แสดงความคิดเห็น

เกมก็ทำอยู่ครับ แต่น่าจะเสร็จไม่ทันเวลาเฉลิมฉลอง  โพสต์เมื่อ 2018-2-3 14:34
 
 มีนามว่าMONGONGAMER 
 สมาชิกคนที่106 
 เพศ 
 ระดับการอ่าน90 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Bascat (U)
เงาแมวดำ
     
โพสต์เมื่อ 2018-2-3 16:03:12 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ระวังเจอชาวริพซูลาดตะเวนนะครับ
 
 มีนามว่าKZGtaye 
 สมาชิกคนที่165 
 เพศ 
 ระดับการอ่าน100 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Minitoise (R)
Alicia
     
โพสต์เมื่อ 2018-2-3 19:27:37 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ต๊ายตาย ขุ่นโซลิมีบท ปกติขี้เกียจอ่านนิยายชาวบ้าน แต่จะรอชม

แสดงความคิดเห็น

แย่ๆๆๆ  โพสต์เมื่อ 2018-3-8 12:17
 
 มีนามว่าjojo741963 
 สมาชิกคนที่
 เพศ 
 ระดับการอ่าน200 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Flybee (C)
เจลลี่ บี
     
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2018-2-3 23:35:21 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jojo741963 เมื่อ 2018-2-3 23:48

ราตรีที่ 1 จดหมายฉบับนั้น

BGM : https://www.youtube.com/watch?v=6uCaEDM-Kf8 (สามารถฟังเพลงประกอบ เพื่อเพิ่มอรรถรส)


        ณ พระราชวังเกรเทียส - ห้องรับรองหมายเลข 2

        ประตูที่ปิดอยู่โพล่งเปิดขึ้นมาอย่างกระทันหัน

        ครึ้ง!
        “เธอฟื้นแล้วยัง ?” ร่างที่เข้ามาด้วยความเร็วเอ่ยถาม โดยที่ไม่ทันได้สนใจว่าใครในห้องจะตกใจที่จู่ๆ ก็เปิด(หรือต้องเรียกว่าพัง)ประตูเข้ามารึเปล่า

        “แหม โซริ รีบเข้ามาจังเลยนะ ทุกคนตกใจกันหมดแล้ว” หญิงสาวที่มีที่คาดผมสีฟ้าเอ่ยขึ้น เธอละสายตาจากเตียงที่กำลังใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูพลังชีวิตอยู่ แล้วก็ตอบคำถามของผู้มาเยือน
        “ตอนนี้ยังไม่ได้สติเหมือนเดิม แต่น่าแปลกนะ ที่ใช้เวทฟื้นฟูไปเท่าไร เหมือนจะไม่ค่อยได้ผลดีเท่าที่ควรนักเลย”

        “งั้นเหรอพี่นิย์” เด็กหนุ่มที่พังประตูเข้ามาใช้มือรักษาทรงผมปิดตาข้างหนึ่งเข้าไว้ในท่าทีเดิม

        “บางที เราอาจจะต้องหาคนที่ใช้เวทย์ศักสิทธิ์ มารักษาเธอก็ได้นะครับ” โจ้ที่อยู่ในห้องด้วยก็เอ่ยขึ้น
        “หรือเราควรจะสนใจกับภารกิจที่เธอนำมาส่งนี่ก่อนดีล่ะ” เตอร์ที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ก็พูดขึ้นมาบ้าง พร้อมกับหยิบกระดาษที่อยู่ในบนซองจดหมายขึ้นมา

        “ทำทั้งสองเรื่องพร้อมๆ กันนั่นแหละ” เจ้าหญิงนิย์เฉลยคำตอบ แล้วหยุดการแสดงเวทมนตร์ แล้วเดินมาที่สำรวจที่ซองจดหมายของเด็กคนนั้น

        “โซริบอกว่า ตอนเจอเด็กคนนี้ เขาตั้งใจจะนำภารกิจมาส่งสินะ แล้วก็สลบไปทันทีเลย” นิย์
        “ใช่แล้วครับพี่นิย์ ระหว่างที่ผมกำลังทำภารกิจ เอาของไปส่งให้นักเดินทางทิศเหนือ ก็เจอกับเธอเข้า” โซริกำลังครุ่นนึก
        “เธอมีอาการเหนื่อยเหมือนกับพึ่งออกกำลังกายเสร็จ หรือพึ่งวิ่งมายังไงยังงั้น” เขาเสริม
“แล้วนายเห็นรึเปล่าว่าเธอกำลังหนีอะไร” โจ้สงสัย
“ไม่นะ ตอนที่เจอก็เห็นแค่เธอคนนี้แหละ ไม่เห็นอย่างอื่นเลย”
“เป็นไปได้ว่า สิ่งที่เธอกำลังหนีอาจจะกลัวนาย หรือไม่งั้นนายก็โชคดี คลาดจากสายตาของมันพอดี” เตอร์พูดพร้อมพยักหน้า
“ยังไงก็ตาม ภารกิจนี้เป็นภารกิจที่แปลกมาก” นิย์พยายามดึงทุกคนให้มาสนใจที่ตัวภารกิจ
“แปลกยังไงเหรอครับพี่นิย์” โจ้เอ่ยถาม

“ภารกิจนี้ ดูจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากไปเกิน….”

ถึง เจ้าหญิงนิย์ แห่งอาณาจักรเกรเทียส

        เราพอจะทราบมาว่า อาณาจักรของท่านมีกองกำลังพิทักษ์อาณาจักร หรือการ์เดี้ยน อยู่ เพื่อที่จะช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยของไซเบิร์ธ ตอนนี้ อาณาจักรไลเทียน่า บนดาวเคียงข้างที่อยู่เสมือนพี่น้องของท่านกำลังประสบปัญหา
        เราทราบจากสายของเราว่า ชาวไซเบิร์ธ มีการค้นคว้าทางเวทมนตร์ที่เป็นอันตราย ไม่นานนี้พวกเขาสามารถสร้างตำราเวทมนตร์ 3 อย่าง ซึ่งเป็นเวทมนตร์ที่มีผลร้ายแรงในการควบคุมดาวไลเทียน่าของเรา มันอาจจะมีผลให้อาณาจักรของเราอยู่ในขั้นวิกฤตได้
        ตอนนี้ เหล่าจอมเวทชั่ว กำลังเดินทาง นำตำรานี้ จากดิแพน ยูนิกัส มุ่งหน้าไปยังเมืองเมอร์ริค โปรดหยุดพวกเขา แล้วทำลายตำราเหล่านั้น
        เราได้ฝากราชสาส์นนี้ไปกับผู้ติดตามของเรา หวังว่าท่านจะให้ความร่วมมือในทางที่ดี

จาก ราชินีแห่งอาณาจักรไลเทียน่า

“นี่มัน...” โจ้

“.....”
ทุกคนในห้องเมื่อได้เห็นจดหมายนั้นแล้ว ก็ต่างอึ้งไปตามๆ กัน จนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ จนกระทั่ง..

“มันเป็นเรื่องล้อเล่นรึเปล่าครับ” โจ้เสนอ
“หรืออาจจะเป็นจดหมายขู่ ก็ได้นะ” เตอร์ร่วม
“ต้องมีคนคิดไม่ดี ต้องการจะแกล้งอาณาจักรของเราแน่ๆ เลยครับ..” โซริสรุปอย่างลังเล

“เราจะทราบความจริงก็ต่อเมื่อ... เด็กผู้หญิงคนนี้ฟื้นขึ้นมา” เจ้าหญิงสรุป

แล้วทุกสายตาในห้อง ก็จับจ้องไปที่ร่างอันบอบบางที่นอนอยู่บนเตียงเพียงอันเดียว กลางห้องแห่งนี้ สายลมเย็นอุ่นๆ ของฤดูหนาวที่กำลังจะหมดลง ลอดผ่านผ้าม่านของหน้าต่างปะทะเข้ากับทุกอย่างในห้อง และถ่ายเทอุณหภูมิไปยังทุกจุดในพื้นที่แห่งนี้ เสียงของใบไม้ที่เกิดจากสายลมพัดผ่านเสียดสีกันจนเกิดเป็นเสียงที่น่าฟัง หูกระต่ายที่ขดงออยู่บนศรีษะให้ความรู้สึกสมจริงมากเลยทีเดียว

เธอคนนี้ มาจากไลเทียน่าจริงเหรอ… เป็นเพียงคำถามที่เกิดขึ้นในใจของโซริ

“หากนี่เป็นเรื่องจริงล่ะก็ มันก็ฟังดูสอดคล้องกับที่โซริพบเด็กคนนี้จากทางเกรเทียสทิศเหนือ เธอดูท่าจะรีบมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ” เจ้าหญิงนิย์กำลังตั้งสมมติฐาน
เธอหยุดพักหายใจครู่นึง “หากว่าจำเป็นต้องวิ่งขนาดนั้น แล้วตนเองเป็นลมจนหมดสติไป ก็แสดงว่าเป็นเรื่องที่เร่งด่วนมาก”
“แต่ถ้าเรื่องเร่งด่วนขนาดนั้นทำไมไม่ใช้พีกซ์ม่าล่ะ” โจ้ตั้งคำถามอีกครั้ง
“ถ้าเขาไม่ใช่ชาวไซเบิร์ธจริงล่ะก็ จะไปมีพีกซ์ม่าได้ยังไง” เตอร์ให้คำตอบ
“ก็จริงแฮะ...”

“ภารกิจนี้อาจจะเป็นภารกิจที่ยากที่สุดเท่าที่เคยมีมา..” นิย์เกริ่นนำ
“หากชาวไซเบิร์ธทราบถึงการมีอยู่ของชาวไลเทียน่า จะทำให้เกิดการแตกตื่นไปใหญ่” เธอใช้มือข้างขวาขึ้นมาสัมผัสบริเวณคาง คิ้วทั้งสองเริ่มขยับเข้ามาใกล้กันเล็กน้อย
“ภารกิจนี้ จะต้องอยู่ในหมวด ‘ภารกิจลับ’ โดยให้เป็น ‘ ภารกิจลับระดับ 7 ‘ ไว้ก่อน” เธอกล่าวอย่างเหนื่อยหน่าย

“ภารกิจลับ!” โจ้
“พี่จะรับภารกิจนั้นจริงๆ งั้นเหรอ!?” เตอร์

ตามปกติแล้ว ภารกิจที่เหล่าการ์เดี้ยนจะได้รับจากเหล่าอัศวินนั้น จะมีระดับอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ระดับ คือ ระดับที่ 1 ถึงระดับที่ 7 (ถึงแม้ว่าจะยังไม่เคยมีภารกิจที่ระดับสูงกว่าระดับ 5 เลยก็ตาม) นอกจากภารกิจธรรมดาแล้ว ยังมีภารกิจลับ ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของภารกิจ ที่ถูกกำหนดขั้นไว้ 7 ระดับเช่นกัน โดยจะต่างกันที่ ระดับที่ง่ายที่สุด จะเรียกว่าระดับ 7 และภารกิจลับระดับที่ยากที่สุดจะเป็น ระดับ 1 โดยภารกิจลับที่ระดับยิ่งน้อยลง ยิ่งจะต้องทำงานเป็นความลับ และเสี่ยงต่อความอันตรายทั้งปวงของตัวผู้รับภารกิจเอง รวมไปถึงสังคมวงกว้างอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตามมารยาทแล้ว ภารกิจลับจะไม่ถูกเผิดเผยให้การ์เดี้ยนทั่วไปได้รับทราบ มันจะถูกแจ้งเตือนไปยังการ์เดี้ยนที่มีระดับความสามารถ แตกต่างกันไปตามระดับของภารกิจ แต่ก็มีบ้างเหมือนกัน ที่จะมีการ์เดี้ยนระดับธรรมดาเข้าไปร่วมแจมกับภารกิจลับ แต่เขามักจะถูกห้ามปราบ เพราะผลเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดเพียงแต่ผู้รับภารกิจเพียงเท่านั้นยังไงล่ะ

“นี่มัน ยิ่งจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะครับ” โจ้เสริม
“เรื่องใหญ่ล๊าวล่ะแบบนี้” เตอร์บ่น
“ไม่ดีแน่ๆๆๆ--” นิย์เหมือนจะบ่นอะไรพึมพัมอยู่ในปาก

ยังไม่ทันที่ทุกคนในห้องจะตัดสินใจอะไรไปได้มากกว่านี้ เด็กสาวที่เป็นเจ้าหญิงนินทราบนเตียง ก็ได้สติ หูกระต่ายที่ขดงอถูกสั่นไหวเล็กน้อย เพื่อเป็นอาการบอกว่าเจ้าของร่างรู้สึกตัว

“เธอฟื้นแล้ว” โซริประกาศ
“โอ้ จริงด้วย”
“เธอไม่เป็นไรแล้วนะ”

“โล่งออกไปหน่อย” เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรเกรเทียสเข้าไปสบตากับดวงตาอำพันตรงหน้า
“อ๊ะ ที่นี่ที่ไหน” เธอตกใจ
“ที่นี่คือปราสาทเกรเทียสจ๊ะ” นิย์ตอบ “เธอชื่ออะไรเหรอ”
“นาลูร่า” เธอตอบไปอย่างพลุนพลัน
“แล้วพวกคุณคือ...”

หลังจากนั้น ต่างฝ่ายก็ได้แนะนำตัว พร้อมทั้งถามถึงความจริงของสิ่งที่อยู่ในภายในจดหมายนั้นออกไป

“สรุปว่า เธอมาจากดวงจันทร์จริงๆ เหรอ...” เตอร์
“ใช่ค่ะ” เด็กสาวพยักหน้า
“ฉันอยากไปสักครั้งนึงจัง… นี่ช่วยบอกหน่อยสิ ว่าตอนนั้นเธอกำลังหนีอะไรมา” โจ้
เธอถอนหายใจก่อนครู่หนึ่ง “พวกนั้นคือ ‘สมาคมนักล่าแสงสว่าง’ ค่ะ”
“นักล่าแสงสว่าง ?” ไม่มีแม้ใครก็ตามในห้อง ที่เคยได้ยินกับชื่อนั่น
“มันเป็นพวกเดียวกันกับนักเวทย์เหล่านั้น ที่สร้างตำราเวทมนตร์เพื่อใช้ควบคุมดาวของเรา” แม้เธอจะยังไม่ได้ให้รายละเอียดไปมากกว่านี้ แต่ก็ตัดเนื้อหา แล้วโยงเข้าประเด็นของจดหมายต่อในทันที
“ตอนนี้ตำราพวกนั้นทั้ง 3 กำลังถูกส่งไปยังเมืองเมอร์ริค ท่านเจ้าหญิงนิย์--”
“ไม่ต้องใช้ท่านก็ได้” เธอขัด
“เจ้าหญิงนิย์ ได้โปรด รับลงทะเบียนภารกิจนี้ให้เหล่าการ์เดี้ยนทำด้วยเถอะนะคะ การ์เดี้ยนที่มีความสามารถของท่าน เอ้ย ของคุณ ทำภารกิจนี้ได้อย่างสบายอยู่แล้วค่ะ!” นาลูร่าพูดอย่างจริงใจ ภายในดวงตาของเด็กสาวกำลังแสดงอาการมุ่งมั่นออกมา

อืม…. ยังคงมีอาการที่ลังเลของเจ้าหญิง

“นี่ ขอพูดอะไรหน่อยสิ” การ์เดี้ยนโซริ
“ไหนลองว่ามา” นิย์
“ภารกิจนี้น่ะ ส่งมาจากดาวดวงอื่น หน้าที่ของการ์เดี้ยน คือ การดูแลความสงบสุขของไซเบิร์ธอย่างเดียวไม่ใช่เหรอ ? เพราะอย่างงั้น ภารกิจนี้จะอยู่ในความรับมือของการ์เดี้ยนจริงๆ น่ะหรือ ? ” โซริตั้งคำถาม
“จริงด้วย มันอาจจะเป็นงานที่หนักหนาเกินไปสำหรับฝีมือการ์เดี้ยนที่ประจำการอยู่ตอนนี้ด้วยนะ” โจ้เริ่มพูดบ้าง

ทุกคนในห้องเงียบเป็นจังหวะให้ได้คิดตาม
ยกเว้นก็แต่เด็กสาว ที่ยังคงนั่งตัวสั่นอยู่บนเตียง “ได้โปรด...”
“จริงอยู่ แต่ตอนนี้ คนที่ทำให้ดวงจันทร์เดือนร้อน ก็ลอยนวลอยู่ในไซเบิร์ธไม่ใช่เหรอ สักวันหนึ่ง เจ้านั่นอาจจะใช้เวทย์ชั่วร้าย ทำแบบนั้นกับโลกที่เราอยู่เองก็ได้นะ” เตอร์แย้ง

“คนที่จะช่วยพวกเราได้ มีเพียงแค่การ์เดี้ยนของคุณนะคะ.. เพราะงั้น..
เหมือนกับพอจะอ่านใจได้ว่า อีกไม่กี่วินาทีต่อจากนี้ จะมีน้ำตามากมายจากบ่อแห่งอารมณ์เอ่อล้นออกมา หญิงสาวมีอำนาจปกครองเกรเทียสจึงได้ออกคำสั่ง

“เตอร์ ไปที่ ศูนย์บัญชาการการ์เดี้ยน ตอนนี้มีภารกิจใหม่แล้ว”

แสดงความคิดเห็น

โซจังเปงตัวเอกในEPนี้เลยสินะ  โพสต์เมื่อ 2018-3-7 07:25
ทำไมต้องเป็นฉัน..  โพสต์เมื่อ 2018-2-4 00:33

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1FAME +5 ย่อ เหตุผล
Cookiez + 5 อู้ว

ดูบันทึกคะแนน

 
 มีนามว่าjojo741963 
 สมาชิกคนที่
 เพศ 
 ระดับการอ่าน200 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Flybee (C)
เจลลี่ บี
     
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2018-2-6 21:35:38 | แสดงโพสต์ทั้งหมด

ราตรีที่ 2 กระดานภารกิจ
BGM : https://www.youtube.com/watch?v=cGDxso0G3Ds (สามารถฟังเพลงประกอบ เพื่อเพิ่มอรรถรส)

        ข่าวภารกิจใหม่กำลังแพร่กระจายไปทั่ว

        แผ่นประกาศรับสมัครภารกิจลับนั้น จะมีความแตกต่างจากภารกิจอื่นๆ โดยสิ่งที่คนทั่วไป รวมถึงการ์เดี้ยนระดับต่ำนั้น จะมองเห็นเป็นเพียงกระดาษเปล่า ไม่มีเนื้อหาหรืออะไรติดอยู่บนนั้น มีเพียงการ์เดี้ยนระดับสูง ที่ได้มีคุณสมบัติเพียงพอถึงที่กำหนดเท่านั้น จึงจะมองเห็นข้อความบนกระดาษภารกิจ และนำภารกิจไปปฎิบัติต่อได้

        โจ้นั้น ได้แยกออกไปทำหน้าที่ ติดต่อไปยังนักเวทที่มีพลังเวทศักสิทธิ์ เพื่อที่จะฟื้นฟูร่างกายของเด็กสาวจากต่างดาวให้เธอแข็งแรงขึ้นมากกว่านี้
        เตอร์ ได้กลับมาประจำการที่ ศูนย์บัญชาการการ์เดี้ยน เพื่อรับรายงานให้กับการ์เดี้ยนที่จะทำภารกิจ ทั้งยังต้องรักษาความเรียบร้อยโดยรวมของอาณาจักรอีกด้วย
        “นี่ นารูล่า ใส่นี่ไว้สิ” เตอร์ยื่นเสื้อคลุมที่มีฮูดคลุมหัวให้กับเด็กสาว “ถ้าใส่นี่ไว้ จะบังหูกระต่ายของเธอได้ มันอาจจะไปสะดุดตากับพวกคนที่กำลังไล่ตามเธออยู่ก็ได้ยังไงล่ะ” เด็กหนุ่มนินจาให้คำแนะนำ
        “ไม่ ฉันไม่ใส่หรอก” เธอปฏิเสธข้อเสนอด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
        “ฉันหมายถึง ถ้าอยู่ในเมืองแบบนี้ ยังไงพวกมันก็ทำอันตรายฉันไม่ได้หรอกค่ะ ขอบคุณนะคะ” เธอรีบแก้ตัวอย่างร้อนรน ที่เหมือนจะพึ่งรู้สึกตัวว่าพูดอะไรไม่ดีออกไป
        “แฮะๆ งั้นเหรอ”

        ส่วนโซริกำลังยืนกอดอกอยู่ที่หน้าบอร์ดรับภารกิจอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ เหมือนเขากำลังจะรออยู่ว่าจะมีใครรอรับทำภารกิจนี้บ้าง

        -- ก่อนหน้านั้น --
“ภารกิจนี้จะอนุญาตให้ผมทำได้จริงๆ เหรอครับ” โซริ
        
        “ใช่จ๊ะ” นิย์พยักหน้า
        เธอยังเสริมต่อว่า “ตลอดเวลาที่ผ่านมา โซริก็มีการทำภารกิจอยู่เสมอ แต่ถึงแม้จะไม่ได้มีระดับความสามารถมากขึ้นเท่าไรก็เถอะ แต่ก็ถือว่าเป็นการ์เดี้ยนที่มีความขยัน”
        “อีกทั้ง เธอเป็นคนพบเจอเด็กสาวคนนี้คนแรกอีกด้วย ถือว่าอาจจะมีความผูกพันธ์ในทางใดทางหนึ่ง” เธอให้เหตุผล

        “....”
        เด็กหนุ่มเงียบไปก่อนครู่หนึ่ง
        “ถึงแม้โซริจะเคยทำงานผิดพลาดมาก่อน หรือที่เคยโดนลดขั้นจากอัศวิน พี่ไม่รวมเป็นเรื่องเดียวกันหรอกนะ”
        การ์เดี้ยนโซรินั้น แต่เดิมก็เคยเป็นกึ่งอัศวินด้วย แต่เกิดเหตุผลบางอย่างขึ้น ทำให้ลดยศมาเป็นการ์เดี้ยนธรรมดาจนถึงทุกวันนี้
        “ถ้าโซริทำภารกิจนี้สำเร็จ ก็อาจจะเป็นโอกาสอันดีในการสะสมผลงานไว้สมัครเป็นอัศวินรุ่นถัดไปก็ได้นะ”

        “ตกลงครับ”
        
        -- ปัจจุบัน --
        เพราะแบบนั้น เด็กหนุ่มผมดำก็เลยทำหน้าหงุดหงิดยืนพิงที่กระดานข่าวสาร เพื่อหวังรอการืเดี้ยนคนอื่นที่จะชวนไปทำการกิจด้วยกัน

        แต่ตอนนี้ในศูนย์บัญชาการฯ ก็ช่างเงียบเหงา นอกจากเตอร์ นารูล่า โซริ และก็เมดสาวที่กวาดขยะอยู่ที่มุมห้อง ก็ไม่มีใครอื่นอีกเลย เสียงของไม้กวาดที่กำลังทำให้พื้นห้องเรียบร้อยดังขึ้นบ้างเป็นจังหวะ หรือเสียงอะไรหล่นบ้างบางครั้ง เพราะว่าเธอค่อนข้างจะซุ่มซ่าม
        ที่ไม่มีใครเลยในศูนย์บัญชาการการ์เดี้ยน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไร ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็พอจะแปลกอยู่ แต่หลังๆ มานี้ หลังจากที่ไซเบิร์ธผ่านเรื่องเลวร้ายมานาน การ์เดี้ยนที่ยังคงจะรับภารกิจอยู่ก็เริ่มลดลง เนื่องด้วยแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัวของตัวเองกัน แต่ก็ยังมีการ์เดี้ยนขาประจำที่ยังพอแวะมารับภารกิจอยู่บ้าง ด้วยความที่ภาระไม่ได้มากมายขนาดนั้น ในตอนที่โซริพบกับ นารูล่าที่หมดสติ ทั้งเตอร์และโจ้ก็เลยยังสามารถไปพบที่ปราสาทเกรเทียสได้เลยนั่นเอง

        นารูล่าที่ยังคงไม่หายดีจากการรักษาตัว เธอตามเข้ามาที่ศูนย์บัญชาการการ์เดี้ยนด้วย โดยที่ทั้งทุกคนต่างก็ห้าม และบอกให้เธอพัก แต่เธอบอกว่าเรื่องทั้งหมดมันมีสาเหตุมาจากเธอ จะให้เธออยู่เฉยๆ ก็คงไม่ได้หรอก เด็กสาวได้แต่ก้มหน้าสำนึกผิด เพ่งสายตาลงไปมองยังลายกระเบื้องไม้ที่ถูกประดับอยู่ที่พื้น เธอจดจ่ออยู่กับมัน ไม่ละสายตาไปไหนเป็นเวลากว่าห้านาทีแล้ว
        โซริที่เห็นเด็กสาวอารมณ์บูดอยู่แบบนั้น ก็พยายามหาอะไรที่จะเอ่ยออกมา อย่างน้อยก็เพื่อไม่ได้ทำให้บรรยากาศเงียบเกินไปนัก
        “นี่ นารูล่า ” เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมามองคู่สนทนา
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ยังไงการ์เดี้ยนทุกคน จะต้องทำภารกิจจนสำเร็จ แล้วช่วยดาวของเธอให้จงได้” เขาให้คำมั่นตามสูตรที่เห็นได้บ่อยในอนิเมะสำเร็จรูปทั่วไป
“ค่ะ” เด็กสาวยิ้มรับให้กับคำพูดนั้น ต่อให้แม้เหมือนกับเป็นคำพูดเกินจริงที่แค่ทำให้เธอรู้สึกดีเท่านั้น แต่มันก็ช่วยทำให้เธอรู้สึกดีจริงๆ

กริ๊ง ~
เสียงกระดิ่งที่ติดอยู่ที่ประตูกำลังส่งสัญญาณว่ามีใครบางคนเข้ามา
“สวัสดีค่าา พี่โซริ ~~ <3 ”
เด็กสาวที่เข้ามาพร้อมกับหางสีน้ำตาล แจกรอยยิ้มให้กับทุกคนในบริเวณ
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ” “พีจัง เองเหรอ”
“พอดีหนูได้ข่าวเรื่อง ภารกิจลับ ก็เลยมาน่ะค่ะ แต่ว่าหนูไม่ได้มาคนเดียวนะ” แล้วเธอก็ชี้นำมองไปยังประตูของห้อง ที่ถูกทำให้เปิดออกอีกครั้งด้วยกลุ่มคนจำนวนมาก

“ถึงยังงงๆ อยู่ก็นะ แต่ถ้าขาดความช่วยเหลือก็คงจะไม่ไปไม่ได้”
ชายหนุ่มนักผจญภัยที่ใครๆ ก็เรียกเขาว่า พี่คอส เดินเข้านำเข้ามา

“ตอนกลางคืนมันเป็นช่วงที่น่าสนุกที่สุดเลยน่ะ”
ลิซซี่ หรือลิซ แวมไพร์รักสงบที่กินน้ำมะเขือเทศเป็นอาหารหลัก

“เหมือนว่าจะได้กลิ่นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นแถวนี้ด้วยล่ะ”
เอ็กซ์ บีสต์ มาสเตอร์ ผู้ใช้พลังควบคุมสัตว์ที่เวลาปกติมักจะไม่ใส่เสื้อ และทำตัวคล้ายสุนัข

การ์เดี้ยนระดับ 3 ดาวเป็นอย่างต่ำทั้ง 4 คนต่างเดินเข้ามายังกระดานภารกิจ
แม้โซริจะดีใจอย่างสุดซึ้ง ที่ในที่สุดก็มีการ์เดี้ยนมาทำภารกิจ แต่เขาก็พยายามเก็บอาการให้เหมือนเป็นเรื่องปกติ “ต.. ต้องขอบคุณทุกท่านมาก สำหรับการสละเวลามาร่วมภารกิจในครั้งนี้”
และก็ไม่ได้ต่างไปจากนารูล่าที่ยืนพิงเคาเตอร์อยู่เช่นกัน “ไม่เป็นไรแล้วนะ มีคนมาทำภารกิจแล้วล่ะ” เตอร์ที่ทำหน้ารับแขกอยู่ยื่นหน้าเข้ามากระซิบกับเธอ
สายน้ำอุ่นๆ สายเล็กๆ ค่อยรินไหลออกมาจากดวงตาของเธอ “ค่ะ”

        การ์เดี้ยนทั้ง 5 คนต่างเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางทำภารกิจ เจ้าหญิงนิย์ให้เตอร์ ซึ่งเป็นอัศวินระดับสูงยังคงรับหน้าที่เฝ้าที่ศูนย์บัญชาการตามเดิม เนื่องจากถ้าหากมีการ์เดี้ยนคนไหนที่จะทำภารกิจเพิ่ม ก็ค่อยให้รับภารกิจที่เตอร์ แล้วค่อยตามมาสมทบทีหลัง นักเดินทางทั้งหมดได้ตัดสินใจกันแล้วว่า จะออกเดินทางในเวลากลางคืน ของคืนจันทร์เพ็ญ ที่ใกล้จะเข้ามาถึงนี้ เพราะการเดินทางในไซเบิร์ธบริเวณดังกล่าวจะค่อนข้างอันตรายเป็นพิเศษ ต้องขอพึ่งเวทมนตร์จากดวงจันทร์ในการทำให้มอนเตอร์ลดความแข็งแกร่งลงได้บ้าง

แสดงความคิดเห็น

การ์เดี้ยนทั้ง5ต้องไปที่เมอริคสินะ  โพสต์เมื่อ 2018-3-7 07:26
 
 มีนามว่าjojo741963 
 สมาชิกคนที่
 เพศ 
 ระดับการอ่าน200 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Flybee (C)
เจลลี่ บี
     
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2018-3-7 23:59:10 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jojo741963 เมื่อ 2018-3-9 01:10

ราตรีที่ 3 คนน่าสงสัยในป่า (1)
BGM : https://www.youtube.com/watch?v=5Amwk16RgEo (สามารถฟังเพลงประกอบ เพื่อเพิ่มอรรถรส)
(*เพื่อคุณภาพที่ดี สามารถคลิกขวา แล้วเลือกคำว่า วนซ้ำ เพื่อให้เพลงเล่นต่อเนื่องตลอดการอ่านเรื่องราวได้)

กลุ่มเดินทางกำลังทำภารกิจโดยการท่องไปในราตรี ทางทิศเหนือของอาณาจักรเกรเทียส เนื่องจากเป็นคืนขึ้น 15 ค่ำ ทำให้เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างจะปลอดภัยเลยทีเดียว ในป่านั้นช่างเงียบเหงา ไม่มีสัตว์ป่าหรือมอนเตอร์เผ่นพ่าน มีเพียงเสียงฝีเท้าหลายๆ คู่ ที่กำลังย่ำเหยียบใบไม้ตามทาง เพื่อพเนจรตามเส้นทางไปเรื่อยๆ หวังในใจก็เพื่อภารกิจจะสำเร็จ ทั้งความปลอดภัยของไซเบิร์ธ และดวงจันทร์

เด็กสาวตั้งหน้าตั้งตาเดินทางอย่างมุ่งมั่น แต่ละคนถือตะเกียงไฟเล็กๆ ไว้ในมือคนละ 1 อัน มันให้แสงสว่างโดยรอบนักเดินทางได้ไม่มากนัก แต่เหตุผลที่ทำให้เส้นทางรอบนอกไม่มืดจนเกินไปนั้น เนื่องเพราะด้วยดวงจันทร์เต็มดวง ที่คอยส่องสว่างอยู่บนฟ้านั่นต่างหากเล่า

บัดนี้เสื้อฮูดคลุมสีน้ำตาล ได้ถูกสวมใส่ให้กับนารูล่า เพื่อให้เธอไม่ผิดสังเกต หรือมีความแตกต่างไปมากกว่าชาวไซเบิร์ธทั่วๆ ไป และเพื่อไม่ให้เธอถูกตามล่าด้วย

เหล่าการ์เดี้ยนทั้งหมดยังคงจำคำสั่งสำคัญที่ถูกกำชับจากเจ้าหญิงครั้งสุดท้ายได้ดี

--ก่อนหน้านั้น--
“จำไว้น่ะ เรื่องการมีอยู่ของชาวไลเทียน่าต้องเก็บไว้เป็นความลับ ห้ามให้ข่าวนี้แพร่งพรายออกไปเป็นอันขาด” นิย์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องรับรองเล็กๆ แห่งหนึ่งในปราสาท
“เพื่อไม่ให้เกิดความแตกตื่นไปทั่วอาณาจักร อีกทั้งอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ไปมากกว่านี้ก็เป็นได้ ดังนั้นแล้ว...” เธอเว้นจังหวะ แล้วหายเข้าใจไปแรงๆ
“ตลอดการปฎิบัติภารกิจ ขอให้การ์เดี้ยนทุกคนเข้าใจตามนี้ด้วย”
“รับทราบ” การ์เดี้ยนทุกคน และนารูล่า ตอบรับคำสั่งนั้นไว้อย่างดี

--กลับมาปัจจุบัน--

กลุ่มนักเดินทางที่ประกอบไปด้วย โซลิ นารูล่า พีจัง พี่คอส ท่านลิซ และเอ็กซ์ซี่

“พี่ว่า ตอนกลางคืนมันก็สวยดีนะ” คอสพูดขึ้น พร้อมหันไปหาเด็กสาวสุนัขจิ้งจอก เพื่อเป็นการหาเรื่องอะไรชวนคุย การทำภารกิจจะได้ไม่เคร่งเครียดเกินไป
พีจังที่ถูกบังคับให้เป็นคู่สนทนา ยังไม่ได้ตอบกลับอะไร เธอเพียงส่งรอยยิ้มให้ ครู่หนึ่ง แล้วจึงตอบกลับไปว่า
“ใช่ค่ะ แต่ผู้คนส่วนใหญ่ มักจะหวาดกลัวกลางคืนจนตัวสั่นกันไปหมด บางคนก็อยากให้กลางคืนหายไป ช่วงเวลาที่ถูกมองข้ามเช่นนี้ ช่างน่าสงสารเสียยิ่งจริงๆ”

เธอถอนหายใจ
“เลิกคิดมาก แล้วคิดแต่เรื่องที่ทำให้ตัวเองมีความสุขดีกว่านะ” เอ็กซ์ก้าวเดินมาแถวข้างหน้า แล้วแตะที่ไหล่ของพีเบา ๆ

เดินทางมาได้สักพัก เหล่าการ์เดี้ยนก็ใกล้จะเข้าถึงเส้นทาง ที่เป็นถนนสายหลัก ที่เป็นทางผ่านระหว่าง เมอร์ริค และดิเพน ยูนิกัสแล้ว สาเหตุที่ต้องเลือกเดินทางให้มาบรรจบที่ถนนสายนี้ ก็เพราะเพื่อดักรอ ใครก็ตามที่อาจจะนำตำราเวทย์ต้องห้าม ที่กำลังถูกขนส่งอยู่ แต่แค่ดักรออย่างเดียวก็คงจะไม่ได้ พี่คอสเลยแนะนำให้ทุกคนเดินสวนเส้นทางระหว่าง เมอร์ริค ไปยังดิเพน ยูนิกัสเลย เพราะพวกเราอาจจะเจอกับนักเวทย์ชั่วร้ายที่กำลังขนส่งตำราฯ อยู่ก็ได้ นับได้ว่าเป็นการตักสินใจที่ฉลาดมากทีเดียว กับเวลาในการทำภารกิจที่แทบจะรออะไรไม่ได้อีกแล้วในตอนนี้


ลิซซังที่เดินอยู่ท้ายสุด เริ่มทำหน้าตาเคร่งเครียดเหมือนกับว่าจับสัญญาณอะไรบางอย่างได้
ด้วยความที่เป็นแวมไพร์ ในเวลาค่ำคืนจะทำให้ประสาทการรับรู้ และความสามารถต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

เด็กสาวที่สวมฮูดอยู่หยุดเดิน เธอมองตรงออกไปในความมืดข้างหน้า แม้เธอจะดูเหมือนมนุษย์ แต่ก็ไม่ใช่ หูกระต่ายยาวเรียวนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อการประดับเพียงอย่างเดียว มันยังมีความสามารถในการฟังเสียงได้อย่างน่าทึ่ง

“มีบางอย่างกำลังใกล้เข้ามา” ลิซพูด ถึงแม้จะแผ่วเบา แต่ก็ทำให้การ์เดี้ยนทุกคนหยุดชะงัก และเปลี่ยนสถานการณ์เป็นพร้อมรบได้ในทันที

หลังจากที่ยืนเกร็งกันอยู่นาน ร่างของชายคนหนึ่งก็ปรากฎขึ้นในเงามืด

เขามีผมยุ่งๆ สีแดงน้ำตาล แต่งตัวโทรม ๆ ด้วยเสื้อผ้าเก่า ๆ


“หีม” เขาส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ พอยิ่งเข้ามาใกล้ๆ ก็ยิ่งมองเห็นรอยแผลจากการโดนทำร้ายบนใบหน้า ดูท่าจะเป็นคนที่มีความสามารถอยู่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว

“มีการ์เดี้ยนเดินเข้าป่าเป็นขบวนแบบนี้ กำลังเอาสินค้าไปส่งเมอร์ริคอยู่งั้นเหรอ” ชายคนนั้นเอ่ยถาม ดูเหมือนเขาจะเคยเห็นหน้าหรือรู้จักเหล่าการ์เดี้ยนมาเป็นอย่างดี
ตรงกันข้ามกับเหล่าผู้พบเจอ ที่ยังคงอยู่ในอาการงุนงงอยู่ไม่ใช่น้อย
“เอ่อ ช่วยบอกชื่อของคุณมาด้วยครับ” โซลิ ที่รับหน้าที่เป็นหัวหน้าภารกิจ เอ่ยถามกับผู้มาเยือน
“ฉันชื่อ ริคอร์ด เป็นนักสำรวจ” ชายผู้นั้นกล่าวอย่างสุภาพ แม้จะตรงกันข้ามกับลักษณะการแต่งตัว
“คุณรู้จักพวกเราด้วยงั้นเหรอ ?” โซลิเริ่มทำการสัมภาษณ์
“แน่นอนสิ การ์เดี้ยนช่วยเหลือไซเบิร์ธ ไว้ได้ตั้งหลายครั้ง ชื่อเสียงของพวกนายช่างน่าอิจฉาจริงๆ” ริคอร์ดกล่าว
“ขนาดฉันสำรวจหุบเขา บุกป่าล่องไพร พบสมบัติ พิชิตสัตว์ร้ายไปตั้งเยอะ ยังไม่เห็นจะเป็นที่รู้จักเหมือนพวกนายเลยน้าา ขนาดตอนนี้พวกนายยังไม่รู้จักฉันเลย”
นักสำรวจตรงหน้าพูดระบายอารมณ์ด้วยเรื่องซีเรียสปนตลก มองได้ไม่ยากเลยว่า ชายคนนี้กำลังพยายามทำตัวเป็นมิตร และสามารถเข้าถึงกับบุคคลอื่นได้ง่าย

ถึงอย่างงั้น ชายผู้นี้ก็ยังทำตัวน่าสงสัย กระเป๋าพาดลำตัวของเขามีขนาดใหญ่มากพอ ที่ข้างในอาจจะใส่ตำราเวทย์ที่เหล่าการ์เดี้ยนกำลังตามหาอยู่ในตอนนี้ก็เป็นได้

ขณะที่การ์เดี้ยนทุกคนยังคงอยู่ในอาการระมัดระวัง นี่อาจจะเป็นแผนการแกล้งเป็นมิตร ของพวกที่นารูล่าหมายถึงก็ได้ โซลิก็ได้เอ่ยขึ้น
“ขออภัยด้วยสำหรับเรื่องที่ท่านไร้ชื่อเสียง ตอนนี้ทางเรากำลังทำภารกิจบางอย่างอยู่”

“หืม อย่างงั้นเหร--”
“คุณดูเป็นคนน่าสงสัยนะคะ” พีโพล่งขึ้นหลังจากที่มองดูท่าทางอยู่นาน

“ไม่ทราบว่าคุณกำลังเดินทางจากที่ไหน ? แล้วกำลังจะไปที่ไหนเหรอครับ ?” เอ็กซ์เริ่มเป็นฝ่ายสัมภาษณ์บ้าง
ริคอร์ด ดูท่าทางจะมีอาการตกใจเล็กน้อย แล้วจึงตอบไปว่า
“ฮืม ฉันพึ่งเดินทางกลับจากการสำรวจถ้ำแคร็กมัซ แต่ก็อย่างที่เห็นน่ะ” เขายื่นมือทั้งสองข้างแล้วเผยตรงหน้าการ์เดี้ยน ก่อนจะพูดต่อ
“วันนี้มันแปลกๆ กว่าทุกวัน ถึงจะเป็นคืนจันทร์เพ็ญ แต่ก็ไม่น่าจะไร้วี่แววมอนเตอร์ขนาดนี้ ปกติมันน่าจะมีมอนเตอร์เผ่นผ่านออกมาให้ล่า มีอะไรติดไม้ติดตัวกลับเมืองไปบ้าง” เขาแสดงอาการหงุดหงิดออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“แต่วันนี้ไม่เลย ไม่มีอะไรเลย พวกนายดูซิ ก็เลยจะกลับไปที่เมืองเมอร์ริค เนี่ย ถ้าไม่เชื่อจะลองไปสำรวจที่ถ้ำแคร็กกมัซก็ได้นะ” ริคอร์ดเหมือนจะพูดตลกปนท้าทายหน่อย ๆ

แต่เขาก็กลับมาทำสีหน้าจริงจัง แล้วใช้มือจับที่คาง ทำท่าเหมือนกำลังจะใช้ความคิดอยู่ “มันน่าแปลกจริงๆ พวกการ์เดี้ยนไม่สงสัยบ้างเหรอ เหมือนกับมอนเตอร์พวกนี้รับรู้ถึงอันตรายบางอย่างที่จะเกิดขึ้นเลย หลบซ่อนตัว ไม่ยอมโผล่หัวออกมา”
“ดิฉันว่า ไม่มีมอนเตอร์ออกมาเผ่นพ่าน มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ =_= ” พีทำหน้าเบื่อหน่าย ราวกับว่าไม่เข้าใจในอารมณ์ของพวกมนุษย์กล้ามที่มีกล้ามเนื้อทุกส่วนแข็งแรง ยกเว้นสมองซะจริง ๆ
“จ๊ากๆๆ ไม่มีมอนเตอร์ให้ล่า ก็ไม่มีเงินสินะ ๆๆ” คอสที่เป็นนักผจญภัยเหมือนกัน ก็พอจะรู้เรื่องประมาณนี้ดีอยู่บ้าง

“ไม่มีงานให้ทำก็ไม่มีเงินเลยสิเนี่ยยย เอาล่ะ งั้นฉันจะขอตัวไปได้แล้วยัง” นักสำรวจหัวร้อนกล่าว

“เดี๋ยวก่อน จะเป็นอะไรไหมถ้าพวกเราจะขอตรวจสัมภาระติดตัวอะไรของคุณซักหน่อย” ลิซรั้งตัวเขาไว้ไม่ให้ออกจากการสอบสวนไปก่อนไว้ด้วยคำพูด

“สัมภาระติดตัวงั้นเหรอ ก็มีแค่กระเป๋าใบนี้แหละ ลองเอาไปดูสิ” ริคอร์ดพูดพร้อมกับส่งกระเป๋าติดตัวไปให้กับโซลิ การ์เดี้ยนคนที่ยืนใกล้กับเขาพอจะส่งของให้ได้ใกล้ที่สุด ทุกคนก็เริ่มรายล้อมมุงเข้ามาสำรวจ หันหน้าคุยกัน เหมือนจะปรึกษาอะไรกันบางอย่าง
“มันก็ไม่มีของน่าสงสัยอะไรหรอกนะ มีแค่น้ำ กับเสบียง ที่ไว้ใช้เป็นอาหารตอนเดินทางก็เท่านั้นแหละ~~” หนุ่มนักสำรวจพูดลอยๆ ขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเหล่าการ์เดี้ยนกำลังตั้งใจกันสำรวจกระเป๋าอย่างจริงจังกันเกินเหตุ ทั้งๆ ที่เขาคิดว่ามันจะทำให้งานของการ์เดี้ยนสะดุดเสียเวลา หรือบางทีอาจจะไปเจออะไรบางอย่างที่ไม่ควรเห็นในกระเป๋าเข้า…

ผ่านไปครู่หนึ่ง
“พวกเราสำรวจเสร็จแล้ว อย่างที่คุณว่าจริงๆ ด้วยมีแค่น้ำดื่ม กับเสบียงเท่านั้นเอง ขออภัยที่ต้องทำการรบกวน” โซลิส่งกระเป๋าเก่าๆ แต่ก็ยังใช้การได้ กลับคืนให้แก่เจ้าของของมัน

“เสร็จธุระของพวกนายแล้ว งั้นฉันคงจะกลับเมืองเมอร์ริคไปทำอย่างอื่นได้แล้วสินะ” ริคอร์ด
“อ่า ใช่แล้วล่ะ แต่ว่าก่อนจะไปนั้น คุณริคอร์ด ช่วยบอกพวกเราหน่อยได้ไหมว่า พบเจอใครที่พอจะน่าสงสัยแถว ๆ นี้บ้างรึเปล่า” โซลิถามคำถามสุดท้าย
“คนที่น่าสงสัยเหรอ เอาจริงๆ ถ้าฉันเป็นพวกบ้านนอก ไม่รู้จักการ์เดี้ยนขึ้นมาละก็ ก็มีพวกนายนี่แหละ ที่น่าสงสัยที่สุดแล้ว” ริคอร์ดตอบกลับปกด้วยสีหน้ากวนๆ
“สรุปว่า ไม่มีสินะคะ….” พีเรียบเรียงเนื้อหา
“งั้นฉันไปก่อนละน้า ตั้งใจทำงานเข้าล่ะ การ์เดี้ยน เพื่อความสงบสุขของไซเบิร์ธ” หลังคำบอกลา นักสำรวจคนนั้น ก็เดินจากไปไกล กว่าจะรู้ตัวอีกที ริคอร์ดก็คงอาจจะเดินถึงเมืองเมอร์ริคไปแล้วก็ได้

หลังจากลับสายตาของนักสำรวจไปแล้ว การ์เดี้ยนทั้งหมดก็เดินสวนทางกลับขึ้นไปยังดิเพน ยูนิกัส ต่ออีกครั้ง เพื่อหวังว่าจะเจอกับเบาะแส หรือคนน่าสงสัยคนอื่นอีก ขณะที่นารูล่า ทำได้แค่ยืนฟังความเห็นเฉย ๆ อยู่ในกลุ่มการ์เดี้ยนที่ยืนออๆ กันอยู่ เพราะเธอไม่ค่อยถนัดหรือมีความสามารถในการทำงานด้านพวกนี้เท่าไร ถ้าเกิดเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับงานมากไปละก็ เธออาจจะกลับเป็นตัวถ่วง ทำให้งานแย่ลงกว่าเดิมก็ได้ อีกทั้งเพื่อความปลอดภัย ในการลดการพบปะ กับกลุ่มคนที่ได้ยินมาว่ากำลังทำหน้าที่ไล่ล่าตามตัวเธออยู่ ในตอนที่เธอกำลังส่งจดหมาย มันจะดีกว่า หากพวกมันไม่เห็นใบหน้าของเธอ

“นักสำรวจเมื่อกี้ เขาก็ดูแปลกๆ ดีนะคะ...” พี
“อืม พี่ก็ว่างั้นนะ” ลุงคอสให้ความเห็น
“มีกลิ่นของความลึกลับ และน่าสงสัยอยู่ด้วย…. ไม่แน่บางทีเขาอาจจะเป็นลูกน้องของพวกมัน ที่ให้แอบส่งตำราเวทย์ต้องห้ามผ่านชายคนนั้นมาก็ได้ ” เอ็กซ์ตั้งข้อสมมติฐาน
“แต่เมื่อกี้เราก็ขอสำรวจของในกระเป๋าแล้วนี่ ก็เห็นพ้องต้องกันว่ามีแค่น้ำดื่ม กับเสบียง” ลิซให้ความเห็นในทางแย้ง

“หรือไม่แน่ก็… อาจจะมีทริกบางอย่าง ในการซ่อนตำราเวทย์ นั้นเอาไว้ โดยที่พวกเราไม่รู้ก็ได้... ” โซลิ ที่เดินนำหน้าอยู่ ลองแสดงความคิดเห็นขึ้นมาบ้าง

.
.
.

ขณะที่ทุกคนกำลังระดมความคิดทางตรรกะกับเหตุผลทั้งหมดที่เป็นไปได้นั้น แวมไพร์และเด็กสาวต่างดาว ก็เริ่มจับสัมผัสของอะไรบางอย่างที่ไกล้เข้ามาได้อีกครั้ง

เด็กสาวที่กำลังสวมฮูดคลุมหัวได้กล่าวขึ้น
“ตรงหน้ามีคนกำลังมุ่งมาทางนี้ค่ะ… คราวนี้ไม่ได้มาคนเดียว แต่มีอยู่ราวๆ 10 คนขึ้นไป….”


แสดงความคิดเห็น

ออร์กันแบบนี้ รวมตัวเตรียมบวกแน่นอน  โพสต์เมื่อ 2018-3-8 11:36
และมีความเป็นไปได้เราต้องตรวจสัมภาระทั้ง 10 คน... ไม่ก็ต้องมีการปะทะ #รอตอนต่อไป  โพสต์เมื่อ 2018-3-8 01:33

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 2FAME +10 ย่อ เหตุผล
MONGONGAMER + 5 มาแย้วววววว
oSolitaryo + 5

ดูบันทึกคะแนน

 
 มีนามว่าjojo741963 
 สมาชิกคนที่
 เพศ 
 ระดับการอ่าน200 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Flybee (C)
เจลลี่ บี
     
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2018-3-15 21:00:21 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ราตรีที่ 4 คนน่าสงสัยในป่า (2)
BGM : https://www.youtube.com/watch?v=i-33CaOhopo (สามารถฟังเพลงประกอบ เพื่อเพิ่มอรรถรส)
(*เพื่อคุณภาพที่ดี สามารถคลิกขวา แล้วเลือกคำว่า วนซ้ำ เพื่อให้เพลงเล่นต่อเนื่องตลอดการอ่านเรื่องราวได้)

        กลุ่มคนที่ห่างไกลออกไป เริ่มเดินเข้ามาใกล้เหล่าการ์เดี้ยนขึ้นเรื่อย ๆ จนเริ่มที่จะสามารถสังเกตลักษณะ และมองเห็นการต่อแถวเดินที่เป็นขบวนได้อย่างสวยงาม กลุ่มบุคลจำนวนมาก ที่ทุกคนสวมไปด้วยผ้าคลุม มองออกไปหลังขบวนจะเห็นพาหนะขนส่งประเภทหนึ่ง ที่ไม่ต่างอะไรกับเกวียน แต่มันไม่ได้ถูกลากจูงด้วยสัตว์พาหนะ คนที่ลากให้มันเคลื่อนที่ ก็เป็นกลุ่มเดียวกันกับเหล่าชายหญิงในชุดผ้าคลุมเหล่านั้น เดินทางมาไม่ต่ำกว่า 3 เกวียน

        คนที่เดินนำหน้ามาก่อนใคร ที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำกลุ่มคนเหล่านั้น ก็ได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าเหล่าการ์เดี้ยน เพราะถูกขัดขวางเส้นทาง คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าคนนั้น เลยทำท่าส่งสัญญาณมือบางอย่าง เพื่อเหมือนให้บอกว่าหยุดขบวนไว้ตรงนี้ก่อน

        แล้วเขาก็หันมาเริ่มทักทายกับโซลิ
        “อะ.. ไม่ทราบว่า การ์เดี้ยนแห่งอาณาจักรเกรเทียส มีธุระอันใดสำคัญยิ่งในยามวิกาลเช่นนี้กันงั้นเหรอคะ ” จากน้ำเสียงของผู้พูดแล้ว ทำให้ทราบได้ทันทีว่าคนที่กำลังเจรจาด้วยนั้นเป็นผู้หญิง

        เครื่องแต่งกายที่เป็นธีมเด่นด้วยสีน้ำเงิน ขาว และหมวกใบใหญ่ที่อยู่บนศรีษะของผู้มาเยือนทุกคน ทำให้บดบังใบหน้าได้อยู่พอประมาณ ทำให้ไม่แน่ชัดว่ากลุ่มคนเหล่านั้นประกอบด้วยชายหรือหญิง เป็นจำนวนเท่าไรบ้าง

        หญิงสาวที่เป็นตัวแทนทูตเจรจา ขยับหมวกเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าชายตาขึ้นมองผู้บดบังเส้นทางตรงหน้า เผยให้เห็น แววตาไร้อารมณ์สีเทาหมอง ผมสีเขียวสว่าง และไม้เท้าสีดำเก่า ๆ ปรากฎอยู่ในมือด้านซ้าย

        “นี่ พวกคุณก็รู้จักเราด้วยเหรอ” โซลิประหลาดใจอีกครั้ง

        นั่นทำให้หญิงสาวตรงหน้าพอจะหัวเราะออกมาได้นิดหน่อย ก่อนจะพูดต่อ
        “ค่ะ”

        “คราวหน้า เวลาการ์เดี้ยนปฎิบัติการ เราน่าจะมียูนิฟอร์มลับ แต่งกายนอกเครื่องแบบ หรือปลอมตัวดูบ้างนะ ไม่ลุ้นเลย...” เอ็กซ์บ่นลอย ๆ

        

        “ท่านกวีซ์ส หยุดขบวนเกิดอะไรขึ้นเหรอขอรับ” ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะมีอายุมาก แต่น้ำเสียงดูราวกับเป็นเด็ก ฟังดูอาจจะอายุน้อยกว่าโซลิด้วยซ้ำ ที่อยู่ด้านหลังผู้นำขบวนเดินขึ้นมาซักถามใกล้ๆ กับเธอคนนั้น แม้ว่ามันจะเป็นการกระซิบถามเบาๆ แต่นั่นก็ทำให้การ์เดี้ยนทุกคนตรงนั้นได้ยินอยู่ดี
        “มีธุระกับการ์เดี้ยนที่จะมาตรวจสอบตำราเวทย์หน่อยนะ บอกให้ทุกคนพักก่อนก็ได้ แต่ว่าพักไม่นานนะ เพราะพวกเราต้องรีบเดินทางกันต่อ” เธอหันมาตอบให้กับเด็กหนุ่มที่เป็นผู้ติดตามของเธอ
        “รับบัญชา ท่านกวีซ์ส” ชายคนนั้น เดินกลับไปสมทบกับผู้คนสวมผ้าคลุมที่ยืนกันอยู่ในขบวนด้านหลัง ให้อนุญาตให้ยืนท่าพักตามสบายได้

        โดนเมินกันแบบนี้ รู้สึกไม่ค่อยดีเลยนะ..
        “แฮ่มๆ” การ์เดี้ยนโซลิไอเบาๆ “เอาล่ะ คุณยังไม่ได้บอกชื่อของคุณเลย และต้องขอทราบด้วยว่าคุณเดินทางจากที่ไหน และต้องการจะไปที่ไหน” โซลิเอ่ยถาม
        “ชื่อของเราคือ กวีซ์ส เราเป็นเพียงหัวหน้านักบวช กลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ในหมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนกลางของอาณาจักรดิเพน ยูนิกัส ”
         “พวกเราเดินทางอ้อมภูเขามาหลายวันแล้ว และเรากำลังจะนำคำสอนจากคัมภีร์เก่าแก่ในหมู่บ้าน ‘ไลเนซ’ ของเรา ไปเผยแพร่ และประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่เมืองเมอร์ริค เพื่อให้ผู้ที่นับถือศาสนาของเรา ที่เมืองเมอร์ริค จะได้สามารถปฎิบัติตามแบบ และเข้าใจแนวทางปฎิบัติของศาสนาเราได้” หญิงสาวพูดพร้อมกับเผยมือให้เห็นถึงเกวียนสำหรับใช้ในการขนของ มีอยู่ด้วยกัน 3 เกวียนด้วยกัน
        “คัมภีร์ ? หรืออาจจะกำลังหมายถึงตำราเวทย์” พี
        “ถ้าอย่างงั้น ก็ขอพวกเราตรวจดูตำราเวทย์พวกนั้นหน่อยสิ” เอ็กซ์ทำท่าเหมือนกำลังดมกลิ่น
        “ถ้าเช่นนั้น ก็ขอเชิญพวกท่านทั้งหมดตามเรามาทางนี้ด้วย”

        “พี่ว่า มีโอกาสสูงเลยนะ ที่กลุ่มคนพวกนี้จะเป็นกลุ่มที่พวกเรากำลังหาตัวอยู่” คอสพูดเบาๆ ในกลุ่ม ขณะที่กำลังถูกเชิญให้ไปดูยังเกวียนส่งของ
        “แต่มันแปลกๆ นะ ที่ทางฝ่ายโน้นยินยอมให้เราตรวจสัมภาระง่ายขนาดนั้น” ลิซตั้งข้อสงสัย
        “บางทีภารกิจนี้อาจจะจบลงด้วยเรื่องหมูๆ ไม่มีการปะทะกันก็ได้ละมั้ง..” โซลิ
        “หนูกลัวว่าบางทีมันอาจจะไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิคะ” พี =_=
        ในขณะที่นารูล่า ยังคงเดินซ่อนตัวไปกับกลุ่มการ์เดี้ยนอย่างไม่น่าสงสัย เธอจับฮูดที่กำลังปิดศีรษะไว้อย่างแน่น เพื่อป้องกันไม่ให้มันถูกเปิดหรือหลุดออกมา

        “นี่ไงล่ะ ถึงแล้วค่ะ” กวีซ์สนำทางการ์เดี้ยนทุกท่านมาหยุดที่เกวียนลำดับที่ 1 จากนั้น ผ้าคลุมที่ปิดไว้ท้ายเกวียนก็ถูกเปิดออก สิ่งที่เห็นตรงหน้าต่างทำให้การ์เดี้ยนทุกคนต้องรู้สึกประหลาดใจไปตามๆ กัน

        “ ” โซลิ

        สิ่งที่อยู่ในเกวียนที่ 1 นั้นว่างเปล่า โล่ง ไร้ซึ่งวี่แววหรือเบาะแสของวัตถุใดๆ ที่อาจะเคยเก็บซ่อนไว้ที่เกวียนได้เลย

        “นี่มันหมายความว่ายังไงๆๆ น่ะ” คอส

        โซลิเห็นทีท่าไม่ดีในการตรวจสอบครั้งนี้ เลยรีบให้กระจายการ์เดี้ยนวิ่งไปตรวจเกวียนที่ 2 และ 3 ในทันที พีจัง พี่คอส ได้ตรวจเกวียนที่ 2 ส่วนเอ็กซ์ และลิซซี่ ได้ตรวจเกวียนสุดท้าย

        สาวนักบวชที่เชื้อเชิญให้ตรวจสัมภาระยังคงยืนที่เดิมด้วยรอยยิ้มฝืนๆ บนหน้าที่ไม่เคยแม้แต่จะเปลี่ยนแปลง ปล่อยให้การ์เดี้ยนทั้ง 4 บุกรุกและลงมือเข้าตรวจสอบเกวียนที่เหลือ โดยไม่มีแม้ท่าทีห้ามปลามใดๆ

        หลังจากที่ ทั้ง 4 คนกลับมา ต่างก็ได้แต่ส่ายหน้าไปตาม ๆ กัน
        “ไม่มีอะไรเลยงั้นเหรอ” โซลิ
        หลังจากที่เกิดความสับสนเล็กน้อย การ์เดี้ยนทุกคนก็หันมามองที่หัวหน้ากลุ่มนักบวชเพียงคนเดียวที่พอจะคลี่คลายข้อสงสัยพวกนี้ได้
        “ทำไม ในเกวียนที่คุณขนมาด้วย ถึงได้ว่างเปล่าแบบนี้ล่ะคะ !?” พีเป็นคนแรกที่เริ่มประเด็นคำถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
        หญิงสาวผมสีเขียวในชุดคลุมสีน้ำเงิน หัวเราะก่อนเล็กน้อย ที่จะตอบว่า “อ่อ หรือว่าพวกท่านกำลังหงุดหงิดที่ไม่เจอสิ่งของที่ต้องการ…..”
        ถึงชุดคลุมของนักบวชจะดูใหญ่ และเทอะทะมากก็จริง แต่มันก็ไม่สามารถซ่อนสิ่งของอะไรไปได้มากกว่าตำราเวทย์ หรือคัมภีร์เล็กๆ สักหนึ่งเล่ม กวีซ์ส ล้วงมือไปหยิบสิ่งหนึ่งที่เธอพกติดตัวมา และนำมันออกมาแสดง “พวกท่านคงจะกำลังต้องการคัมภีร์ หรือตำราเวทย์สิ่งนี้งั้นสินะคะ”

        ม้วนกระดาษเก่าๆ แต่ก็ดูมีพลัง ในมือขวาของหัวหน้านักบวชถูกหยิบเผยออกมาให้เห็นอย่างง่าย

        ทันใด เอ็กซ์ผู้ควบคุมพลังแห่งสัตว์ป่า โฉบพุ่งเข้ามาแย่งสิ่งสิ่งในมือนั้นของหญิงสาวไปในทันที
        ฉุบ

        “ในเมื่อพวกเราได้หลักฐานแล้ว เราต้องขอจับกุมตัวพวกท่านในฐานะที่กำลังปองร้ายดวงจันทร์ และมีสิ่งที่แสดงถึงความไม่มั่นคงในอาณาจักรไซเบิร์ธ โดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย” โซลิเอ่ย พร้อมให้คอส และลิซ เข้าไปล็อคแขนของกวีซ์ส ไว้ทั้งสองข้าง

        “เดี๋ยวนะ พวกท่านพูดเรื่องอะไร พวกท่านคงจะเข้าใจอะไรผิดไปแล้วล่ะค่ะ” กวีซ์สโต้ตอบ เธอพยายามขัดขืดการเข้าประชิดตัวของการ์เดี้ยนอยู่ซํกเล็กน้อย
        “จนป่านนี้ ยังคิดจะทำไขสือหลอกพวกเราอีกงั้นเหรอ” พี

        นารูล่าที่สังเกตอยู่นาน เริ่มสะกิดที่เสื้อของโซลิ เหมือนกำลังพยายามที่จะบอกอะไรบางอย่าง
        “เดี๋ยวก่อน โซลิ ไม่ใช่หรอก” เอ็กซ์พูดขึ้นมา
        นั่นทำให้การ์เดี้ยนทุกคนรู้สึกประหลาดใจอีกครั้งไปตามๆ กัน
        “ในตำราเวทย์อันนี้ เหมือนจะไม่ใช่สิ่งที่พวกเรากำลังตามหา” บีสต์มาสเตอร์ ที่อ่านตำรานั้นจบแล้ว เดินนำมันมาแสดงกับโซลิ

[ ตำราเวทมนตร์ : แฮโรไวน์ เฟสเต้ ]
รูปแบบ : วิญญาณ                        พลัง : -
ประเภท : สถานะ                        แม่นยำ : 100
ผลกระทบ : สร้างอาณาเขตวงแหวนเวทมนตร์, สิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่อยู่ในเขตเวทมนตร์นี้; จะถูกนับว่ามีสถานะเป็น [วิญญาณ] ด้วย.

    “อะ..อะไรกัน.. อย่างงั้นเองเหรอ… ”
        โซลิพยักหน้าส่งสัญญาณเป็นนัยๆ ให้แก่คอสและลิซทราบ จึงได้ทำการปล่อยตัวกวีซ์สออกมา

        หญิงสาวยังคงยิ้มด้วยสายตาที่กวนประสาท แล้วเธอก็พูดต่อว่า “ไม่คิดมาก่อนเลยว่า การ์เดี้ยนที่เป็นที่รู้จักของเกรเทียสจะไร้มารยาทเช่นนี้นะคะ”
        “ทางเราต้องขออภัยด้วย นี่เป็นภารกิจที่สำคัญมาก ทางเราเลยจำเป็นต้องทำงานให้รวดเร็ว” โซลิแก้ตัว พร้อม ๆ กับใบหน้าของการ์เดี้ยนทุกคนอย่างน่าผิดหวัง ที่คิดว่าน่าจะจับคนร้ายได้แล้วแท้ ๆ

        “เอาล่ะๆ เราเข้าใจดี เป็นอันว่า ระยะเวลาการเดินทางของพวกเราเสียเวลาไปมากแล้ว ไม่ทราบว่าพวกท่านจะอนุญาตให้พวกเราเดินทางไปยังเมอร์ริคต่อได้รึยังล่ะ” เธอทำท่าทีกดดันต่อเหล่าการ์เดี้ยนที่ได้ทำงานผิดพลาด

        ทุกคนเงียบหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมา สายตาดูราวกับว่ากำลังใช้ความคิด

        “แต่ว่าพวกคุณยังไม่ได้ตอบคำถามของเราเลย” โซลิเบี่ยงประเด็น
        “ว่าทำไม นักบวชของศาสนานี้จะต้องขนเกวียนเปล่า ๆ ที่ไม่ได้ใส่อะไรไว้เลย แบกไปไหนมาไหนแบบนี้ด้วย”

        “นั่นเป็นความประสงค์ของท่านบิชอป เราคิดว่าท่านศาสดาคงมีเหตุผลที่สำคัญบางอย่าง ไม่ทราบว่าท่านจะสงสัยในตัวศาสดาของเราด้วยอย่างงั้นหรือคะ ? ” กวีซ์สอธิบาย และแสดงคำตอบโดยการตั้งคำถาม
        ดูจะเป็นคำถามที่ละเอียดอ่อนกับจิตใจมากไป ทำให้ยังไม่มีคำตอบใด ๆ เอ่ยขึ้น
        “ถ้างั้น เรื่องที่คุณพาพวกเราเดินมาสำรวจที่เกวียนด้วยล่ะ ถ้าตำราเวทย์ อยู่ในมือของคุณตั้งแต่แรก ทำไมถึงไม่แสดงให้เราดูตั้งแต่ตอนนั้น นั่นจะได้ไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดด้วยยังไงล่ะ” โซลิ
        ความสบายใจของเธอ ยังคงแสดงออกมาผ่านรอยยิ้มบนหน้าอยู่ตลอดเวลา “นั่นเป็นเพราะพวกเราต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของพวกเราให้แก่พวกท่าน เรื่องแบบนี้ พวกท่านยังใช้คิดสงสัยนักบวชที่บูชาแสงสว่างได้อีกงั้นหรือ ? ”

        ขณะที่ฝ่ายการ์เดี้ยนยังคงโดนตอกกลับแบบรัวๆ เป็นคอมโบนั้น นักบวชหนุ่มคนหนึ่ง ที่เคยเข้ามากระซิบอะไรบางอย่าง เดินเข้ามาใกล้ๆ หัวหน้าผู้เคารพของตน แล้วเอ่ยอะไรบางอย่าง
        “ท่านกวีซ์ส ขอรับ หากช้ากว่านี้ เกรงจะไม่ทันการนะขอรับ”
แม้มันจะเป็นเสียงกระซิบ แต่ก็ทำให้เหล่าการ์เดี้ยนที่ยืนอยู่ตรงหน้าได้ยินมันอยู่ดี
        “เอาล่ะๆ เราว่าพวกท่านคงจะทำให้การเดินทางของพวกเราเสียเวลาไปมากแล้ว ดังนั้นหากเราจะเร่งเดินทางต่อในตอนนี้ หวังว่าพวกท่านคงจะอนุญาตนะ”

        เนื่องจากการสอบถามไม่คืบหน้า ผสมกับไม่ได้เบาะแสอะไรสำคัญเพิ่มเติมทำให้เหล่าการ์เดี้ยนยังไม่สามารถยึดตัวพวกเขาไปได้มากกว่านี้

        หลังจากที่ขบวนเดินทางของนักบุญ เคลื่อนตัวผ่านไปหมดแล้วนั่น.. บทสนทนาบางอย่างในป่าของกลุ่มการ์เดี้ยนก็เริ่มขึ้น
        “พีว่า พวกนักบวชเมื่อกี้น่าสงสัยสุดๆ เลยล่ะค่ะ” พีย้ำ
        “ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกันนะ” ลิซให้ความเห็น
        “แต่ว่ามันติดที่ว่า พวกเราหาหลักฐานที่เป็นตำราเวทมนตร์เหล่านั้นไม่เจอน่ะสิ แบบนั้นพวกเขาก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่” โซลิ

        “อืมมมม….” ในขณะที่การ์เดี้ยนทุกคนยังคงใช้ความคิดอยู่อย่างไม่วิตกอยู่นั้น นารูล่าและลิซ ก็สามารถจับเสียงของการเคลื่อนไหวตรงหน้าได้

        มีใครคนหนึ่งกำลังวิ่งมา

        “อ้าว นั่นพวกท่านโซลินี่ ทำอะไรกันอยู่ที่นี่งั้นเหรอ”
        มังกร จอมเวทย์ผมสีม่วงสี ที่มีแว่นตากับผ้าพันคอไว้เป็นเอกลักษณ์เด่น เอ่ยซักถามขึ้นมาแต่ไกล…..


คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1FAME +5 ย่อ เหตุผล
MONGONGAMER + 5 หนุกจุงง

ดูบันทึกคะแนน

 
 มีนามว่าoSolitaryo 
 สมาชิกคนที่38 
 เพศ 
 ระดับการอ่าน90 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Snowlob (S) ★
Olivia
     
โพสต์เมื่อ 2018-3-15 22:13:44 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
เอ.. อ่ามีความรู้สึกว่า เวลาเจอใครต้องสงสัยและค้นของ...

หมายความว่าเมื่อมอนกอนโผล่มา นี่ก็ควต้องตรวจสัมภาระของมังกรด้วยไหมนะ และมอนกอนก็จะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในที่สุด....
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับโพสต์นี้ได้ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้