กรุณาเลือก อุปกรณ์เคลื่อนที่ | แสดงผลรูแบบคอมพิวเตอร์
12
กลับไป ตั้งกระทู้ใหม่
เจ้าของ: jojo741963

นยว : Mission from the Moon (ภารกิจพิทักษ์ราตรี)

[คัดลอกลิงก์]
 
 มีนามว่าMONGONGAMER 
 สมาชิกคนที่106 
 เพศ 
 ระดับการอ่าน90 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Bascat (U)
เงาแมวดำ
     
โพสต์เมื่อ 2018-3-16 23:55:47 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
วฏฟรรค!!!! ผม พี่ขาว กะท่านเนม ไปทางป่าเซเธีย>ดาร์โคเปียซึ่งจะไปเข้าเมอร์ริคทางตอนใต้นะ แล้วมาโผล่แถวดิเพนยูนิกัสได้ไง ช่วงเวลาก็ใกล้เคียงกันเพราะกลุ่มผมเจอกลุ่มโซจังแถวชายแดนเกรเทียสแล้วแอบใช้เวทย์ล่องหนแล้ววิ่งไปทางป่าเซเธียหนิ หรือว่านั่นจะเปงตัวปลอม ไม่ก็ท่านโจ้มะได้อ่านนิยายผมตอนที่1หรือมะได้ดูแผนที่ไซเบิร์ธอ้ะป่าว หรือผมเจอปีศาจที่บงการBig Daddy Lion3ตัวร่ายเวทย์ให้พลัดพลากกะพวกท่านเนม สับสนไปหมดแล้ว
 
 มีนามว่าjojo741963 
 สมาชิกคนที่
 เพศ 
 ระดับการอ่าน200 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Flybee (C)
เจลลี่ บี
     
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2018-4-15 23:49:09 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jojo741963 เมื่อ 2018-4-15 23:54

ราตรีที่ 5 คนน่าสงสัยในป่า (3)
ฺBGM : https://www.youtube.com/watch?v=pM8r3Kby_w4


21:15 น.

“ดึกดื่นป่านนี้ พวกท่านโซลิมัวทำอะไรกันอยู่” ผู้ทัศนาผ่านมาเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
“กำลังทำภารกิจอยู่นิดหน่อยน่ะ” โซลิ

“ว่าแต่มังกรออกมาทำอะไรนอกเมืองตอนดึกแบบนี้ล่ะ” พีจังเป็นฝ่ายถามบ้าง
“ผมก็กำลังทำภารกิจอยู่เหมือนกัน ดูโน่นสิ” เด็กหนุ่มผมสีม่วงชี้นิ้วไปทางด้านหลัง ทำให้เป็นที่สนใจพอจะเห็นได้ชัดว่ามีคนอีกกลุ่มกำลังตามมา

“กรลี่ เขาให้มาคุ้มกันพ่อค้าส่งของนะ มัวไปทำอะไรอยู่” เสียงที่น่าจะคุ้นหู ดังมาแต่ไกล
“นั่นพี่ขาวนี่นา” พี
“อะอ่าว ท่านพี โซลิ และคนอื่นๆ ก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ” ขาว หรือเต้ย บาทหลวงผู้ปลีกวิเวกสร้างโบสถ์ไว้อยู่คนเดียวในแถบๆ ชาณเมืองเกรเทียส เดินมาหยุดตรงหน้าเหล่าการ์เดี้ยน พร้อมกับขบวนส่งของอะไรสักอย่าง ที่มาพร้อมกับกลุ่มคนที่ไม่รู้จักจำนวนมาก

“ผมก็อยู่ด้วยนะครับ” เนม เด็กหนุ่มผมสีม่วงอ่อน ผู้ใช้วิชานินจา และสวมผ้าปิดปากสีดำ ที่เดินหลบอยู่ข้างหลังรถม้าส่งสินค้า โผล่ออกมาจากขบวน

หลังจากที่การ์เดี้ยนทั้ง 5 พร้อมกับเด็กหญิงต่างดาว ได้พบปะกับผู้มาเยือน ที่เป็นการ์เดี้ยนทั้ง 3 คนแล้วนั้น ต่างฝ่ายได้สอบถามและเล่าที่มาที่ไป เพียงแต่ไม่ได้พูดถึงภารกิจตามหาตำราเวทย์และเรื่องของนารูล่าก็เท่านั้น

“ยังงี้เองสินะ มังกรมาทำภารกิจคุ้มกันพ่อค้าส่งของ จากดิเพนยูนิกัส ไปเมอร์ริคเหรอ” พีย้ำทวนถึงสิ่งที่ได้ยินอีกครั้ง

“ช่ายแล้ว แล้วก็มาเจอพวกท่านโซลิกันตรงนี้นี่แหละ แล้วพวกท่านโซลิล่ะ... อ๊ะ! ว่าแต่เด็กคนนี้คือใคร น่ารักจัง” มังกร

“หนูชื่อ.. นารูล่า ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ..”เธอตอบไปอย่างกลัวๆ

“คือว่า.. พวกเรามาทำภารกิจอยู่น่ะ กำลังตามหาคนน่าสงสัยที่เดินทางผ่านทางนี้” โซลิตอบออกไป โดยหวังว่าความลับที่กำลังทำภารกิจอยู่ จะไม่ถูกเปิดเผยให้กับการ์เดี้ยนคนอื่นรู้ ไม่ใช่เพราะว่าหวงรางวัล หรือความได้หน้าอะไร แต่มันจะยิ่งไม่ปลอดภัยขึ้นเรื่อยๆ หากว่าการ์เดี้ยนที่ไม่ได้มีระดับมากพอรับรู้ถึงภารกิจเข้า อาจจะเป็นอันตรายไปก็ได้

“อืม.. ถ้ายังงั้น ก็มาถูกทางแล้วล่ะ” เต้ย

บาทหลวงผมขาวยกมือขวาขึ้นมากำ ตั้งบนมือซ้าย ทำท่าเหมือนกับนึกอะไรออก

“หมายความว่ายังไงเหรอท่านขาว” เอ็กซ์เอ่ยถาม
“ก็เพราะว่าเส้นทางที่เรามาน่ะ เป็นเส้นทางของของหมู่บ้านที่ไกลที่สุดในดิเพน ยูนิกัสแล้วน่ะสิ” เต้ยอธิบาย

“หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ เส้นทางที่เราเดินทางผ่านมา ก็คือเส้นทางทั้งหมดที่พวกท่านโซลิจะเดินไปยังไงล่ะ” เนมที่เงียบอยู่พูดออกมาบ้าง

“ถ้างั้น หรือต้องการจะบอกว่า..” พีทำหน้าเหมือนกับกำลังใช้ความคิด

“ใช่แล้ว เส้นทางที่เราผ่านมา ไม่มีคนน่าสงสัยหรือ กลุ่มนักเดินทางที่กำลังจะเดินทางมาเลย” เต้ยซามะก็ได้เฉลยคำตอบให้กับทุกคน

“หืม.. อย่างงั้นจริงๆ เหรอ” โซลิเหมือนจะไม่มั่นใจในคำบอกเล่านั้น เพราะใจจริงๆ ก็อยากจะเดินตรวจตะลวนทัวร์ไปให้ทั่วทั้งไซเบิร์ธอยู่เหมือนกัน ถ้าสามารถทำได้ภายในคืนเดียวน่ะนะ..

มังกร เต้ย เนม ทั้งสามคน ต่างพยักหน้าตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน ดูท่าพวกเขาจะจริงจังและยืนยันหนักแน่นให้กับคำตอบเหล่านั้น

นั่นทำให้โซลิแทบจะพูดไม่ออกไปยกใหญ่ๆ

จนเสียงของลิซซังได้ทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดนั้น
“ก็จริงอยู่ ว่าพวกมังกรเดินทางมาจากต้นทาง แต่จะแน่ใจได้ยังไงว่าเส้นทางที่มังกรเดินทางผ่านมาแล้ว จะไม่มีพ่อค้า หรือใครเดินทางผ่านมาอีก” แวมไพร์หนุ่มตั้งข้อสงสัย

“ก็เพราะว่าเป็นตามธรรมเนียมของชาวดิเพน ถ้าหลังจากเวลา 3 ทุ่มแล้วล่ะก็ จะไม่มีพ่อค้าคนไหนออกเดินทางแล้วล่ะ” มังกรบอก

มังกรนั้น นอกจากเกรเทียสแล้วก็ยังมีอาณาจักรดิเพน ยูนิกัส ที่ตัวเองชื่นชอบ และมักจะออกไปเดินเล่น หรือเที่ยวสำรวจอยู่บ่อยๆ ตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมานั้น ก็ได้ทำให้เขาพอจะรู้หลักปฎิบัติหรือข้อมารยาทต่างๆ ของแผ่นดินธรรมชาติแบบนั้นอยู่บ้าง

“อืม.. ตอนนี้ 3 ทุ่ม 15 งั้นสินะ ” คอสหยิบนาฬิากาพก ที่ตัวเองประดิษฐ์ขึ้นจากในกระเป๋าขึ้นมาดู

“ถ้าอย่างงั้นก็หมายความว่า กลุ่มของมังกร ก็เป็นคนน่าสงสัยกลุ่มสุดท้ายที่ผ่านมาทางนี้งั้นเหรอ” พีถาม พลางเชิงหันมาหาคำแนะนำที่เป็นคำตอบจากโซลิ

“ก็คงอย่างงั้น...” โซลิ พูดพร้อมกับยกมือมาจับที่ปาก ราวกับคนกำลังใช้ความคิด ท่ามกลางสายตาของนารูล่า ที่ไม่พูดอะไร เพียงแต่มองโซลิเงียบๆ แบบนั้นมาราว 10 นาทีแล้ว

“คนน่าสงสัย เอ๋ ?” มังกรเริ่มถามด้วยความรู้สึกแปลกๆ ว่าอาจจะมีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับการทำภารกิจของตน

“ใช่แล้ว บางทีพวกนายอาจจะเป็นการ์เดี้ยนที่โดนพวกศัตรูหลอกใช้ก็ได้ เพราะงั้นต้องขอความร่วมมือในการให้ตรวจสัมภาระในเกวียนของพ่อค้าเหล่านั้นด้วยล่ะ” เอ็กซ์พูด พร้อมกับทำหน้าราวกับต้องการจะล้างแค้นอะไรบางอย่างที่เก็บกดมานาน

“อะ.. เอ๋… ผมเนี่ยนะ ถูกหลอก..” มังกรเริ่มหวั่นวิตกเข้าไปใหญ่

“น่าสงสัยจริงๆ..ด้วย ทำตัวมีพิรุธแบบนี้.. ไปเถอะ พี่ลิซ พี่คอส ไปตรวจสัมภาระกัน” พีพูดพร้อมกับชักชวนสมาชิกอีกสองคนให้ตามที่ที่เกวียนของพ่อค้า

“อะ.. ช้าก่อน ไม่ได้นะ...” มังกรพยายามเดินเข้ามาตัดหน้าเด็กสาวจอมเวทย์ เพื่อกั้นเธอเอาไว้
“คะ..คือว่า ผมก็เป็นการเดี้ยนเหมือนกัน ดังนั้น ความรับรองของผมก็น่าจะทำให้ทุกคนเชื่อใจได้ไม่ใช่เหรอ ของที่ให้คุ้มกันมาพวกนี้น่ะ ไม่ใช่ของอันตรายอะไรหรอกนะ” มังกรพูดอย่างลุกลี้ลุกลน

“ถึงงั้นก็เถอะ ของข้างในจะเป็นอะไร เดี๋ยวพวกเราจะเป็นคนพิสูจน์เอง” ลิซ
“หลีกไปนะ!” พี
“ถ้าบริสสุทธิ์ใจก็ให้พวกเราเข้าไปดูสิ ว่าขนอะไรกันมา” คอส

ทางด้านโซลิ เอ็กซ์ และนารูล่าที่เห็นเหตุการณ์อยู่นั้น ก็เหมือนจะแสดงอาการหนักใจอยู่ไม่ใช่น้อย
“จะไหวไหมเนี่ย พวกนั้น” โซลิ


“นี่! ก็บอกให้หลีกยังไงล่ะ อยากเจอดีใช่ไหม ” พี
“เอาน่ามังกร ใจเย็นๆ หน่อยนะ” เต้ยพยายามจะเข้ามากันตัวมังกรไว้ ไม่ให้เข้าไปสร้างความเดือดร้อนกับงานของการ์เดี้ยนอีกกลุ่มได้
“ขอบคุณมากน่ะเต้ย ที่เข้ามาช่วยห้ามเขาไว้” คอส
“ไม่ได้นะ ก็บอกว่ามันเป็นของสำคัญมาก ถ้าแตะต้องมันอาจจะเสียหายได้!” มังกร
“ฮึ่ม เดี๋ยวพวกเราจะทนุทนอมอย่างดีเลย เชื่อมือ” ลิซ
“ไม่ได้นะ ม่ายยย ” มังกรที่โดนเต้ยลากไปแล้ว ยังคงร้องงอแงอย่างน่าเอ็นดู

“แฮะๆ” เนม

และการ์เดี้ยนที่เดินเข้ามาตรวจสัมภาระในรถของพ่อค้านั้น หลังจากที่เปิดผ้าออกมาแล้ว ก็เผยให้เห็นถึง….

.
.
.
ชุดตัวต่อกันพลา และ ฟิกเกอร์อนิเมะสาวแว่นโลลิ ! ขนาดแบบ 1:1 ทั้ง ฟิกเกอร์อนิเมะต่างๆ ในขนาดที่หลากหลาย อยู่กันแน่นจนเต็มเกวียน….

“ของสำคัญมากที่ว่า.. คือพวกนี้น่ะเหรอ..” จอมเวทย์พี เหมือนจะกำลังเก็บอาการโกรธไว้ไม่อยู่แล้ว หลังจากที่เห็นของตรงหน้า

“มังกรรรรร นี่มันหมายความว่ายังงายยย” ราวกับว่าถ้ามีไฟออกมาจากได้ เด็กสาวคงทำมันไปแล้ว

“ก็มันสำคัญมากยังไงล่ะ T_T แบบนี้พวกท่านพีก็รู้หมดแล้วน่ะสิ ว่าพวกเรากำลังทำภารกิจคุ้มกันของพวกนี้อยู่” มังกร

ให้มันได้อย่างงี้สิน่ะ….


“ของพวกนี้มันส่งมาจากโรงงานต้นทาง ที่อยู่ปลายสุดของดิเพน ยูนิกัสเลยน่ะครับ ก็เลยได้ของราคาถูกมากๆ ” การ์เดี้ยนเนม กำลังอธิบายสาเหตุที่พวกเขาต้องออกมาเดินทาง ที่ต้องถ่อมาไกลถึงที่นั่น และมาพบกับพวกของการ์เดี้ยนโซลิอยู่ที่นี่

“ว่าแต่ เพื่อแค่มาเอาฟิกเกอร์พวกนี้เนี่ยนะ ต้องเดินทางตั้งไกลมาถึงนี่เลยเหรอ ข้างนอกเกรเทียสอันตรายจะตายไป” โซลิ พูดเชิงแนวดุ เขาก็ไม่อยากให้การ์เดี้ยนที่ทำงานอยู่ที่ต้องเกิดความสูญเสียไปอยู่เหมือนกัน

“อ่อ เรื่องนั้น…. อันที่จริง พวกเราก็พึ่งรู้เหมือนกันว่ามันมีโรงงานตั้งอยู่ตรงนั้น แถมการที่พวกเราไปโผล่ที่นั่นได้ ก็เพราะว่ามันมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นน่ะครับ ฮาฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าๆๆๆๆ” เนมพยายามหัวเราะกลบเกลื่อนถึงสาเหตุ และที่มาที่ไปที่ไปอยู่ที่นั่น
“ใช่ไหมครับท่านขาว ฮาฮ่าฮ่าๆๆๆๆๆ”
“อ้อๆๆ ใช่แล้วๆๆ ตอนนั้นเองสินะเนม แหมๆๆ ฮ่าๆ” เต้ยซามะก็พยายามเนียนไปให้ถึงมากที่สุด

“อะแฮ่ม” โซลิแสร้งไอออกมาเบาๆ ก่อนจะพูดต่อ
“เอาเป็นว่า เพราะว่าวันนี้เป็นคืนจันทร์เต็มดวงพอดี ก็เลยไม่มีมอนเตอร์ออกมาเผ่นพ่าน ดังนั้นจะงดเว้นโทษที่นำพาตัวเองออกมาเจออันตรายตอนกลางคืนก็แล้วกัน” เด็กหนุ่มผมดำให้คำตัดสิน

“แจ๋ว!” “เยี่ยมมากท่านโซลิ!”

หลังจากนั้น การ์เดี้ยนทั้งสองกลุ่ม ก็ได้ตัดสินใจเดินทางต่อไปในเส้นทางเดียวกัน นั่นคือมุ่งหน้ากลับเมอร์ริค พร้อมกับเหล่าพ่อค้าจำนวนหนึ่งที่เดินทางนำสินค้ามาด้วย เพราะคำบอกกล่าวจากพวกของมังกร ว่าหลังจากเส้นทางนี้ไม่มีใครสัญจรผ่านมาอีกแล้ว

ดังนั้นแล้ว คนน่าสงสัย ก็น่าจะเป็นกลุ่มใครสักคน 1 ใน 3 กลุ่มนี้ ที่พวกเราเดินทางผ่านมาตั้งแต่เริ่มแรก โซลิพยายามคิดเชื่อมโยงประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะหาเบาะแสไปถึงตัวคนร้าย เพราะเวลาก็เดินอยู่ตลอด อีกไม่กี่ชั่วยาม เวลาของคืนนี้ก็จะหมดลงไปแล้ว

“อืม…...” โซลิ
“แล้วเรื่องคนร้ายจะเอายังไงต่อดีล่ะคะ ” พีถาม ขณะเดียวกันกับนารูล่าที่เกาะแขนเสื้อของพี ส่งสายตามองไปที่โซลิเหมือนกับพยายามจะอ่านใจอยู่

คนร้ายที่ขนส่งตำราเวทย์ต้องห้ามงั้นเหรอ…
ขนส่ง…
ซ่อน...
คัมภีร์…
ปกปิด...
ตำราเวทย์…
คนร้าย…
คำถาม…

อืม...


“เอาเหอะน่า พีจัง เดี๋ยวให้โซลิใช้ความคิดสักหน่อยนะ ถามอะไรไปตอนนี้อาจจะรบกวนเขาเปล่าๆ” คอส
“โถ่ ก็หนูอยากรู้นี่ ว่าตอนนี้พี่โซลิมีความเห็นยังไงกันบ้าง ถ้ารู้ก็คงไม่ถามหรอกค่ะ” จอมเวทย์สาวหุ่นเชิดเหมือนจะถูกทำให้งอนซะแล้ว ท่านคอสต้องรีบง้อเลยนะเนี่ย

ถ้ารู้ก็คงไม่ถาม...

“อ๊ะ...”
แววตาตาสีแดงที่ถูกปิดอยู่ข้างหนึ่ง ก็ได้สั่นไหว และเข้าใจถึงความจริงบางอย่าง

“ฉันรู้แล้วล่ะ ว่าตำราเวทย์มันซ่อนอยู่ที่ไหน….”


 
 มีนามว่าMONGONGAMER 
 สมาชิกคนที่106 
 เพศ 
 ระดับการอ่าน90 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Bascat (U)
เงาแมวดำ
     
โพสต์เมื่อ 2018-4-17 02:30:45 จากอุปกรณ์เคลื่อนที่ | แสดงโพสต์ทั้งหมด
........................คือผม ท่านเนม กะท่านขาวพลัดไปคนละที่เลยนะ ไม่ได้รับภารกิจอะไรเลย ถ้าผมหมดปัญญาแถจริงๆผมคงต้องลบนิยายที่แต่งทิ้งแล้วแต่งเรื่องใหม่สินะ ดูเหมือนว่าท่านโจ้จะไม่อยากเชื่อมจริงๆ พออ่านแล้วรู้สึกท้อเลย
 
 มีนามว่าjojo741963 
 สมาชิกคนที่
 เพศ 
 ระดับการอ่าน200 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Flybee (C)
เจลลี่ บี
     
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2018-4-30 21:13:08 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jojo741963 เมื่อ 2018-5-2 23:16

ราตรีที่ 6 กับดัก

** คำเตือน : บทนี้จะเป็นการเฉลยคดีตำราเวทย์ ดังนั้น หากท่านเป็นผู้ที่หลงเข้ามาอ่านตอนนี้พอดี เพื่อแค่จะดูความสนใจของนิยาย อยากจะแนะนำให้ท่านกลับไปสุ่มหาตอนอื่นมาอ่าน เพราะหากอ่านเนื้อหาในบทต่อไปอาจจะเป็นการสปอย์ ทำให้เสียอรรถรสในการรับชมเรื่องราวได้ **

ถ้าพร้อมเตรียมใจ หรือลองเดาคนร้ายไว้เล่นๆ เรียบร้อยแล้ว ก็กดอ่านกันได้เลย



คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1FAME +5 ย่อ เหตุผล
oSolitaryo + 5 ฉากต่อไปน่าจะได้บู๊แล้วล่ะ !

ดูบันทึกคะแนน

 
 มีนามว่าjojo741963 
 สมาชิกคนที่
 เพศ 
 ระดับการอ่าน200 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Flybee (C)
เจลลี่ บี
     
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2018-5-2 23:01:53 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jojo741963 เมื่อ 2018-5-2 23:06

ราตรีที่ 7 วิกฤต

โซลิที่ยังคงบาดเจ็บ ยังกำลังนั่งสนทนากับพีอยู่ โดยรอบที่เต็มไปด้วยการ์เดี้ยนที่นอนสลบอยู่กันถ้วนหน้า

“พี่โซลิ ยังนึกไม่ออกอีกเหรอ… พวกเรามีเวลาไม่มากแล้วนะ..” พีมีอาการเหน็ดเหนื่อย

“ขอลองนึกอีกแปปนะ”



-- ก่อนหน้านั้นอีกครั้ง

ในขณะที่ตำราเวทย์ทั้งหมดได้อยู่ในเงื้อมมือของกวีซ์สแล้ว

ทางฝั่งการ์เดี้ยนก็มีการเตรียมท่าทีพร้อมที่จะรับการปะทะนั้น
“ทุกคน ยังพอเคลื่อนไหวได้รึเปล่า” โซลิหันกลับมาถาม

“ก็พอได้นะ” เอ็กซ์
“ไม่ยากเท่าไรค่ะ” พี
“ยังไงก็ต้องได้อยู่แล้ว” ลิซ
“สบายใจ หายห่วงได้” คอส
ทางด้านนารูล่า เธอดูจะตื่นตระหนก และตื่นเต้นกับสถานการณ์ในตอนนี้มากๆ จนเธอยังทำอะไรไม่ถูก “คือๆ คือหนู..”

ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น ฝ่ายนักบวชสาว เธอได้เริ่มลงมือบางอย่าง
แฮโรไวน์ เฟสเต้ !

“นี่มัน… ตำราเวทย์เมื่อตอนนั้น” พี

ตำราเวทย์สีม่วงอีกหนึ่งเล่ม ที่อยู่บนมือของเธอตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ แต่บัดนี้มันได้แสดงอำนาจของมันแล้ว

[ ตำราเวทมนตร์ : แฮโรไวน์ เฟสเต้ ]
ระดับ - ★★
รูปแบบ : วิญญาณ                        พลัง : -
ประเภท : สถานะ                        แม่นยำ : 100
ผลกระทบ : สร้างอาณาเขตวงแหวนเวทมนตร์, สิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่อยู่ในเขตเวทมนตร์นี้; จะถูกนับว่ามีสถานะเป็น [วิญญาณ] ด้วย.

ทุกพื้นที่ที่เป็นอาณาเขตรอบตัวผู้คนเหล่านั้น เกิดแสงส่องขึ้นมาจากพื้นอย่างน่าประหลาดอีกครั้ง ทำให้ทุกคนแทบที่จะยกมือขึ้นมาป้องตา เมื่อแสงนั้นจบลง ก็ปรากฎเป็นพื้นสีม่วงทั่วบริเวณ พร้อมกับกลุ่มควัน หมอกสีม่วงทึบจำนวนมาก ลอยต่ำๆ ไปมารอบตัวอย่างน่าพิศวง ไกลออกไปจะมองเห็นอาณาเขตกว้างออกไปไม่รู้จบทั่วเส้นขอบฟ้า

“รู้สึกเหมือนตัวจะเบาๆ ขึ้นมาเลยแฮะ” โซลิ

“ในสนามพลังเวทย์นี้ จะเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตทุกอย่างให้มีสถานะเป็นวิญญาณยังไงล่ะ” กวีซ์สประกาศ

“เรื่องนั้นน่ะ ไม่เห็นจะทำอะไรพวกเราได้” คอสพูดขึ้นมาอย่างผิดหวัง

“หึๆ.. ลองมองรอบๆ ตัวตอนนี้ให้ดีๆ สิ... ” กวีซ์หัวเราะตอบกลับไปอย่างเบาๆ

บรรยากาศโดยรอบช่างเงียบงัน แต่ก็ไม่ไร้วี่แววเสียงของคลื่นลมที่พัดผ่าน มันเคลื่อนที่ไปมาอย่างรวดเร็ว ราวกับเหมือนมีบางอย่างที่เคลื่อนที่ไปมาด้วยความเร็วอย่างไม่รู้จบ เสียงของสิ่งมีชีวิตปริศนาที่พาดผ่านไปมา ทำให้การ์เดี้ยนที่ไม่คุ้นเคยกับมัน รู้สึกหวั่นวิตกยิ่งนัก

“อ๊ะ..!” นารูล่าที่ยืนอยู่ จู่ๆ ก็โพล่งอะไรออกมา

“คุณคือคนที่ทำงานให้กับพวกเงา จริงๆ ด้วยสินะ!!”

ความรู้สึกอย่างน่าประหลาดหลอมรวมตัวกัน ถึงจะตอนแรกจะมองไม่เห็นจริงๆ ว่ามีอะไรอยู่ตรงนั้น แต่จู่ๆ มันก็ปรากฎเผยให้เป็นร่างของสัตว์ประหลาดสีดำร่างใหญ่ยักษ์ ที่ยืนล้อมอยู่รอบ ต้นไม้พุ่มไม้ และอาณาเขตวิญญารเหล่านั้น ที่ยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่มีใครอาจทราบได้ รู้สึกตัวอีกทีพวกมันทั้งหมด ก็ยืนล้อมทุกอย่างเอาไว้ ไม่ให้หนีออกไปทางไหนได้แล้วทั้งนั้น

“นี่คือ พวกเงาอย่างงั้นเหรอ...” เอ็กซ์

เงาดำพวกนั้นมันดูมีรูปร่างคล้ายกับมนุษย์ แต่ดูเผินๆ ก็จะดูไม่สมส่วน มันสีดำทั้งร่างกาย เบาบางจนเหมือนจะมองทะลุ แต่ขณะเดียวกันก็ดูแข็งแกร่งซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ร่างของพวกมันมีหลายรูปแบบ และไม่สมส่วน ทั้งร่างผอมสูงใหญ่ หรือร่างแคระเตี้ยเกร็น บนร่างกายไม่ปรากฎให้เห็นถึงสิ่งอื่นใดนอกจากสีดำ และดวงตาสีแดงที่ปรากฎพร้อมส่องแสงอยู่ตรงของใบหน้า ที่ไม่มีทั้งแววตาหรือรอยยิ้มใดๆ มีเพียงแสงที่ส่องออกมาจากดวงตาสีแดงสองจุดคู่หนึ่งเพียงเท่านั้น

“พวกเงาน่ะ อ่อนแอทางกายภาย และทำอะไรพวกคนที่มีร่างกายอยู่ไม่ค่อยจะได้..” กวีซ์สบอก

“คุณก็เลยเปลี่ยนพวกเราให้เป็นวิญญาณ เพื่อลบจุดอ่อนข้อนี้สินะ” พีเริ่มแสดงอาการหงุดหงิด

-: เงา :-
ระดับ 3-5 ดาว (★★★ - 60%, ★★★★ - 38%, ★★★★★ - 2%)
ธาตุ : วิญญาณ        โอกาสพบ : หายาก
มอนเตอร์ลึกลับที่ไม่ได้ปรากฎตัวให้เห็นบ่อยนัก ไม่สามารถปะทะตัวกับร่างที่มีชีวิตได้ หากพบเจอหรืออยู่ใกล้ชิดกับพวกมันบ่อยๆ จะมีอาการหลอนประสาท ในระดับดาวสูงๆ เคยรายงานว่าใช้เวทย์ความมืดได้ด้วย บางคนก็อ้างว่าพวกมันอาจจะเป็นมอนเตอร์ที่มาจากมิติอื่น
เครดิต: ขออภัย ไม่ทราบจริงๆ ว่าใครเป็นเจ้าของ แต่ขอขอบคุณล่วงหน้า (ฉันแก้ไขเพิ่ม)

อือออออ….. อืมมมม… อือออออ….
เสียงร้องของพวกมันเรียกร้องความสนใจอยู่เป็นบางเวลา

“ดูเหมือนว่าในการ์เดี้ยนกลุ่มนั้น จะมีคนที่รู้จักพวกเงาเป็นอย่างดีอยู่ด้วยนะ” กวีซ์สพูดพลางชำเลืองสายตามองไปยังนารูล่า ที่ตัวสั่นเกาะโซลิไว้อยู่ นั่นทำให้เธอแทบอยากจะขยับถอยไปก้าว

ถึงเธอจะตื่นเต้นอยู่แค่ไหน เธอก็รวบรวมกำลังแล้วเอ่ยข้อความออกไป
“พ..พวก คุณกำลังโดนพวกมันหลอกใช้อยู่ ! รีบหยุดเรื่องพวกนี้ แล้วทำลายตำราเวทย์เหล่านั้นซะ!”
ถึงจะรู้ว่าพูดออกไปแล้วไม่มีประโยชน์ แต่ใครจะสนล่ะ

“หึ อย่างงั้นเหรอ แต่เพื่อจะมองเห็นแสงสว่าง ก็ต้องปกคลุมด้วยความมืดที่ยิ่งใหญ่นะ” นักบวชสาวยกมือทั้งสองข้างส่ายไปมา เหมือนจะบอกว่าก็มันช่วยไม่ได้ล่ะนะ

“จับตัวเด็กคนนั้นมา ส่วนที่เหลืออนุญาตให้กำจัดได้!” กวีซ์สออกคำสั่ง และเหล่าเงาที่รายล้อมก็พุ่งเข้าจู่โจมทันที

“พี ปกป้องนารูล่าไว้ ส่วนคนอื่นๆ สู้ให้สุดความสามารถ!” โซลิให้แผนการ
ทุกคนตอบรับแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน

ถึงแม้สนามพลังของเขาวงกตไร้ทางหวนกลับจะมีพลังในการพันธนาการร่างของการ์เดี้ยนไว้อยู่บ้าง แต่ด้วยผลของสนามพลังวิญญาณ นั่นก็แทบจะหักล้างกันพอดี ทำให้ร่างของการ์เดี้ยนเบาหวิว และเคลื่อนตัวได้อย่างคล่องแคล่ว

ฟื่บ ย้าา ชิ้งง

การ์เดี้ยน ทุกคนต่างรับมือกับการปะทะที่จู่โจมเข้ามาของเหล่ามอนเตอร์เงาได้เป็นอย่างดี ตามปกติแล้วนั้น มอนเตอร์เงาจะไม่สามารถสัมผัสร่างกายโดยตรงได้ แต่เพราะผลของเขตเวทมนตร์ เลยทำให้สามารถต่อสู้ปะทะตัวกันได้อย่างมอนเตอร์ปกติ

พียืนอยู่ตรงกลางเป็นเซ็นเตอร์ ปกป้องเด็กสาวต่างดาวเอาไว้ เธอใช้กงเล็บฟาดฟันเข้าใส่เงาที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่ปราณี ในขณะที่นารูล่า เพียงยืนสั่นกลัวเท่านั้น เธอไม่ได้มีทักษะในการต่อสู้เลยนี่นา

นักผจญภัยคอสใช้ประแจเหล็กขนาดใหญ่ที่อยู่ในมือตอนนั้น เป็นอาวุธฟาดเข้าใส่ร่างของเงาอยู่ไม่เว้น “ย๊าาา ตายซะๆๆๆ”

ทางด้านแวมไพรลิซ ก็กระโดดหลบและฟาดโซ่สีเงาเงินแดง เข้าใส่มอนเตอร์อย่างไม่ยั้ง พร้อมกับหลบไปมา เขาโจมตีและจัดการศัตรูโดยไม่จำเป็นต้องใช้เสียงสักนิด

เอ็กซ์ก็โจมตีมอนเตอร์ต่างๆ โดยการซัมม่อนสัตว์รับใช้สุนัขและสิงโตขนาดเล็กออกมาช่วยต่อสู้ พวกมันดูจะรับมือกับอันตรายที่เข้ามาได้มากเลยทีเดียว
“ไปเลย บีชช์โช่ว! โจมตีมันเลย!”

โซลิโจมตีศัตรูต่างๆ ด้วยเพลงดาบที่ตนคุ้นเคยและฝึกมาเป็นอย่างดี ระบำเพลงได้สร้างความเสียหายให้กับมอนเตอร์เงาเป็นจำนวนมาก

อืออออ อืวววว อูววววว
เสียงร้องของพวกมันที่ได้รับความเจ็บปวด ดังไปมาอย่างน่าสยดสยอง

ถึงแม้การต่อสู้ที่เห็นได้ชัดว่าเหล่าการ์เดี้ยนสามารถเอาชนะมอนเตอร์เงาได้อย่างง่ายดาย แต่ปัญหาหนึ่งที่ไม่เคยถูกแก้ไข คือจำนวนเหล่ามอนเตอร์ที่มากมายไร้ที่สิ้นสุด ยังมีพวกมันอีกเป็นจำนวนมาก ห่อล้อมป่าด้านข้างทั้งสองฝั่ง และอาณาเขตพันธนาการสีฟ้าเอาไว้ โดยที่ไม่รู้เลยว่ายังมีพวกมอนเตอร์เหล่านี้เหลืออีกเท่าไร

“สู้ไปเท่าไร ก็เหมือนจะไม่หมดสักที...”
พีจังที่ต้องต่อสู้กับมอนเตอร์เงา และรับหน้าที่ปกป้องนารูล่าทั้งสองอย่างพร้อมๆ กัน เริ่มจะเหนื่อยล้าก่อนมากกว่าใครเพื่อน

“โซลิ เราต้องไปจัดการที่ตัวหัวหน้าของพวกมันแล้วล่ะ” เอ็กซ์ที่หลบการโจมตีของมอนเตอร์เงาอยู่ พูดขึ้น

“เอาล่ะ ทุกคน ถ้าเป็นไปได้ให้เปลี่ยนการโจมตีไปที่ กวีซ์ส ที่ยืนอยู่ตรงนั้นแทน แต่ก็ยังคอยรักษาระยะรอบๆ ตัวพีเอาไว้ อย่าให้คลาดกันมากนัก” โซลิมอบหน้าที่อีกครั้ง

การ์เดี้ยนทุกคนปฎิบัติตามหน้าที่ของทีมทันที

“แล้วใครจะโง่อยู่เฉยๆ ให้โดนโจมตีกันล่ะ” นักบวชสาวถอยตัวเอง เข้าไปหลบหลังกำแพงมอนเตอร์เงา 1 ระยะ พร้อมกับกางตำราเวทย์เล่มหนึ่งขึ้นที่ตัวเองถืออยู่ขึ้นมา

“พี่สาวคนนั้น กำลังจะใช้ตำราเวทย์แล้วค่ะ..” นารูล่าเอ่ย

ตำราเวทย์สีแดงในมือของกวีซ์ส ลอยขึ้น และส่องประกายแสงชั่วขณะ ก่อนที่มันจะกลับเป็นออร่าสีดำที่น่ากลัวแทน
“เธอจะประทับตราเจ้าของลงบนตำรานั้นแล้วอย่างงั้นเหรอ...” โซลิกัดฟัน

“หึๆ ฉันประทับตราไม่ได้หรอก ของแบบนี้คงจะเอาไปขายที่ตลาดมืดได้ราคาสูงทีเดียว” กวีซ์สยิ้ม

“จะบอกให้เอาบุญแล้วกันน่ะ นี่น่ะเป็นพัฒนาการชั้นสูงทางเวทมนตร์ ของเผ่าเงา ที่มีไม่กี่เผ่าบนโลกนี้ที่ใช้ความสามารถนี้ได้” ราวกับมีกลุ่มพลังงานเวทมนตร์จำนวนมากไหลเวียนไปมารอบร่างกายของ หญิงสาวผมเขียวคนนั้น

วิวัฒนาการชั้นสูงทางเวทมนตร์ของเผ่าเงาที่กวีซ์สพูดถึง นั่นคือ การที่เผ่าเงาที่มีระดับพลังงานเวทย์สูง สามารถที่จะ ก็อปปี้ หรือคัดลอกพลังเวทมนตร์ ของตำราเวทย์อื่นที่มีอยู่ทั่วไป หรือถูกประทับตราไว้แล้ว มาใช้เป็นพลังของตัวเองได้อย่างทันที หรือเรียกอีกอย่างก็คือ การดึงเอาพลังเวทยมาจากเงาของตำราเวทย์นั้น เพราะว่าตามปกติแล้ว ตำราเวทย์ เป็นอาวุธทางเวทมนตร์ที่จำเพาะ เฉพาะผู้ที่ประทับตรากับตำรานั้นเพียงคนเดียวเท่านั้น จึงจะมีสิทธิในการใช้งานมันได้ คนอื่นก็จะไม่สามารถใช้ตำราเวทย์นั้นได้อีกเลย การสร้างตำราเวทย์ปลอมขึ้นจากเงาของตำราเวทย์เดิมนี่เอง จึงเป็นความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งของกลุ่มผู้ใช้พลังเงา ที่เป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือได้ยากทีเดียว หากว่าเขามีตำราเวทย์ที่อยู่ในมือหลากหลายประเภทพร้อมๆ กัน

จากตำราเวทย์สีแดงอันเล็กๆ ที่ลอยอยู่นั้น มีตำราเวทย์อีกอันปรากฎขึ้น ในตำแหน่งด้านล่างของตำราเวทย์อันนั้น เกิดเป็นตำราเวทย์อันใหม่ ที่ดึงมาจากพลังเงาของตำราเวทย์เดิม

“ที่เราทำสัญญากับพลังของเงามานั้น ก็ไว้เผื่อใช้ในยามฉุกเฉินแบบนี้ยังไงล่ะ” เธอให้คำตอบ

“นั่นมัน คือการสร้างตำราเวทย์ปลอมขึ้นมาจากเงางั้นเหรอ ก็เคยได้ยินมา แต่ก็พึ่งจะเคยเห็นครั้งแรกนี่ล่ะ” ลิซ

ตำราเวทย์สีเงาแดงอันใหม่ได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว และมันก็ถูกใช้งานอย่างทันที

“เหล่าความมืดในรัตติกาลจงฟังบัญชา ก่อเกิดพลังสร้างความพินาศให้โลกในบัดดล”

บลัดลานารี่ มูน !!

[ ตำราเวทมนตร์ : บลัดลานารี่ มูน ]
ระดับ - N/A
รูปแบบ : ความมืด                        พลัง : -
ประเภท : สถานะ                        แม่นยำ : 100
ผลกระทบ : ใช้ได้เฉพาะในยามราตรีเท่านั้น, เปลี่ยนให้คืนนี้กลายเป็น จันทร์สีเลือด (Blood Moon) ทันที.

แรงสั่นสะเทือนและเสียงกรีดร้องของแมกไม้ ดังขึ้นอย่างพิศวง ราวกับมีสัตว์ป่าจำนวนมากในป่าถูกทารุณด้วยธนูแหลมคมจำนวนร้อยดอกปักบนร่างกาย เมฆและหมอกสีแดงเริ่มก่อตัวกันบนท้องฟ้า บรรยากาศกำลังบอกว่านี่เป็นเวลาที่ไม่ควรจะออกจากบ้านมากที่สุด และในที่สุด พระจันทร์สีเหลืองสดใส ได้ถูกชะโลมไปด้วยควันสีแดง และกลืนแสงสว่างของมันไปอย่างช้าๆ จนในที่สุด มันก็กลายเป็นก้อนกลมๆ ที่เต็มไปด้วยสีแดงที่เหมือนถูกป้ายด้วยของเหลวสดของร่างกายอย่างไงไงอย่างงั้น พระจันทร์ของคืนนี้ได้กลายเป็นจันทร์เลือดโดยสมบูรณ์แล้ว

“นี่มันอะไรกัน...” โซลิพูดขึ้นมา พลางชายสายตาไปยังนารูล่าที่พีกำลังปกป้องอยู่ เธอมีอาการขาสั่นจนแทบจะล้มไปอยู่แล้ว

ราวกับรู้สึกได้ถึงบางอย่างในป่าลึกที่กรีดร้องส่งเสียงแสดงความเจ็บปวดอย่างโหยหวนและทุรนทุราย

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 2FAME +10 ย่อ เหตุผล
oSolitaryo + 5 ย์ดีกนุห
MONGONGAMER + 5 หนุกดีย์

ดูบันทึกคะแนน

 
 มีนามว่าMONGONGAMER 
 สมาชิกคนที่106 
 เพศ 
 ระดับการอ่าน90 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Bascat (U)
เงาแมวดำ
     
โพสต์เมื่อ 2018-5-2 23:36:21 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
มอนสเตอร์เงาระดับ5นี่คือสามารถทำให้คนทั้งเมืองฝันร้ายเรื่องเดียวกันจนเกิดเป็นภาพหลอนติดตาและกลายเป็นโรคจิตได้เลยนะ อันตรายมากๆ แต่คงไม่อยู่ในมิติที่35หรือไซเบิร์ธหรอก น่าจะถูกอัญเชิญมาจากมิติอื่นด้วยคัมภีร์ต้องห้ามแน่ๆ
 
 มีนามว่าoSolitaryo 
 สมาชิกคนที่38 
 เพศ 
 ระดับการอ่าน90 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Snowlob (S) ★
Olivia
     
โพสต์เมื่อ 2018-5-3 00:57:09 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ไม่นะ ! เรื่องนี้มันไม่สดใสอีกต่อไปแล้วว

แสดงความคิดเห็น

แต่ก็ไม่ดาร์คหนิ เพราะมอนยังแค่ระดับอ่อน=w=  โพสต์เมื่อ 2018-5-3 22:43
 
 มีนามว่าjojo741963 
 สมาชิกคนที่
 เพศ 
 ระดับการอ่าน200 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Flybee (C)
เจลลี่ บี
     
 เจ้าของ| โพสต์เมื่อ 2018-5-16 00:47:16 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jojo741963 เมื่อ 2018-5-16 01:13

ราตรีที่ 8 สีเลือด

โซลิที่กำลังทำท่าครุ่นคิด ตอนนี้เขาพอจะนึกอะไรได้หลายๆ อย่างแล้ว
แต่การ์เดี้ยนทุกคน รวมทั้งนารูล่าที่สลบไปแล้วก็ยังคงไม่ตื่นขึ้นมา มีเรื่องอะไรสำคัญอีกเรื่องที่ยังพลาดไปอีกงั้นเหรอ

“พี่โซลิ… มัน.. มันใกล้เข้ามาแล้ว” พีรุกเร้าจนเธอแทบจะเลิกตื้อ ถ้าไม่ติดว่าเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นปัญหาใหญ่ที่พวกเราต้องเผชิญ

“คิดว่า ใกล้จะนึกออกทั้งหมดแล้วล่ะ”



-- ก่อนหน้านั้น อีกสักครั้งหนึ่ง

รัติกาลสีเลือด ได้แสดงพลังของมันให้แก่ผู้พบเห็นได้ประจักษ์

“พระจันทร์ เปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว...” นารูล่าพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมอง

นอกจากมันจะประกายแสงเป็นสีแดง รอยสีคล้ำบนผิวดาวของมัน ยังดูแปลกตากลายเป็นรูปหัวกะโหลกไขว้สีเลือดสดตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้

ทั่วทั้งมหานครไซเบิร์ธ ต่างสัมผัสกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างพร้อมเพียงกันในทุกพื้นที่



ณ ถนนสายหลักสักแห่งหนึ่ง ในอาณาจักรเกรเทียส
“แม่ครับ ข้างนอกหน้าต่างท้องฟ้าเป็นสีแดง”
“อย่าออกไปดูนะลูก”

“เฮ้! ทำไมรถม้าถึงไม่ยอมทำตามคำสั่งเลยล่ะ นี่ หยุด! ฉันเป็นนายแกนะ เจ้าม้าบ้า!”

“ลุง วันนี้ผมจะไปถึง หมู่บ้าน วอร์ริส ฟอร์เรสต์ ไหม”

“อร๊ายยย นกพิราบมันทำร้ายชั้น!”


อาณาจักรเมอร์ริค

“เร่เข้ามา เชิญชมๆ อ๊ะ บนท้องฟ้านั่นอะไร”

“หูว ดูสิๆๆๆ” “ทำไมเป็นแบบนั้นอะ” “เทศกาลเหรอ” “เห้ย ขโมย! จับมันไว้ที!!”

ดาร์โคเปีย

“นั่น พระจันทร์กลายเป็นสีแดง”
“ว้ายๆๆ ไหนๆๆ” “อร้ายยย ของหายาก อยากเห็นมานาน”

ใครคนหนึ่งได้ลุกขึ้นยืนบนแท่นสูง แล้วป่าวประกาศ
“ทุกท่าน โปรดฟัง นี่เป็นโอกาสดี ที่เราจะสะสมพลังเวทย์ความมืดส่วนนี้ไว้….”

อาณาจักรดีธ

เนื่องจากอาณาจักรดีธค่อนข้างวุ่นวายอยู่แล้ว เหตุประหลาดนี้ จึงไม่ได้ทำให้เป็นที่สนใจของคนในเมืองมากนัก ยกเว้นบ้านหลังหนึ่ง

“คุณย่าคะ คืนนี้ท้องฟ้าเป็นสีแดง..” เด็กสาวตัวน้อยที่ยินอยู่ริมหน้าต่างพูดขึ้น
หญิงชราบนเก้าอี้โยก ที่กำลังใช้สมาธิกับการถักไหมพรม เงียบไปครู่หนึ่ง
“....”

“อืม… วันนี้ดูท่าจะเกิดอาเพศขึ้น” เสียงแก่ๆ ของหญิงสาวที่มีอายุ ดังขึ้นพร้อมกับตอนที่เธอยกมือขวาขึ้นมาประคองแว่นของเธอ

ทางฝั่งทิศเหนือ อาณาจักร ดิเพน ยูนิกัส

กลุ่มชนเผ่าต่างๆ ทำพิธีตามวัฒนธรรมของตัวเอง บ้างเต้นระบำ และร้องเพลงด้วยคำศัพท์ที่ไม่รู้จัก และไม่มีใครรู้ความหมาย ดูพวกเขาต่างจะสนุกสนาน และรื่นเริงไปกับการประกอบพิธีกรรม และงานเทศกาลของเผ่าตัวเอง จนแทบไม่ได้สังเกตอะไรสักอย่างที่ผิดปกติบนท้องฟ้า

แต่ก็มีผู้ใช้เวทย์บางท่าน ที่สามารถรับรู้ได้  ณ ที่พักของนักเวทย์ท่านหนึ่ง
“ท่านครับ ข้างนอกนั่น--” เสียงของชายคนหนึ่ง ที่เดินเข้ามาในห้อง ด้วยท่าทีบุกรุก แต่ก็ยังไม่ทันจะได้พูดจนจบ นักเวทย์อาวุโสอีกคนที่นั่งอยู่ในห้อง ก็ทำท่ายกมือขึ้นมาห้ามปราม

“ข้าทราบแล้ว ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไป นี่เป็นโชคชะตาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง” คู่สนทนาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ จิบเครื่องดื่มร้อน อย่างสบายอารมณ์

“จะไม่เข้าไปจัดการจริงๆ เหรอครับ” ชายที่พึ่งเดินเข้ามาแสดงอาการร้อนรน

“ไม่ต้องๆ” เขาจับหูแก้วของเครื่องดื่มขึ้นมาจิบอีกครั้ง อย่างช้าๆ แล้ววางมันลงบนโต๊ะ “อย่าเป็นห่วงไปเลย อีริค ข้าเห็นทุกอย่างในนิมิตนี่หมดแล้ว”

ฝั่งคนที่ยืนอยู่ริมประตู ยังแสดงอาการไม่เชื่อมั่นในคำพูดนั้นอยู่เล็กๆ น้อยๆ

ความชั่วร้ายของจันทร์สีเลือด ได้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่ว เหล่ามอนเตอร์ที่ได้อาบแสงจันทร์ เกิดอาการดุร้ายขึ้นอย่างน่าประหลาด ทั้งพุ่งเข้ามาทำร้ายชาวเมือง และออกมาจากที่หลบซ่อนในป่ากันอย่างทันที

“ทุกคนนน รีบหลบเข้าไปอยู่ในบ้านเร็ววว!!!!”

“อร๊ายยย” “กรี๊ดดดด” โครม ตูมม ครืนน

กลับมาที่กลุ่มการ์เดี้ยนโซลิ ที่กำลังต่อสู้เพื่อทำภารกิจกับตำราเวทย์ลึกลับอยู่ พวกเขาเองก็กำลังต่อสู้กับมอนเตอร์ดุร้ายมากมาก ที่บุกออกมาจากป่าแบบไม่ยั้ง มีตั้งแต่หมาป่า ระดับสองดาว ไปจนถึง ออร์คยักษ์ระดับ 5 แห่กรูกันเข้ามา โจมตีสลับไปมากับกลุ่มเงา เรียกได้ว่าต้องรับมือกับการปะทะกันอย่างไม่ยั้ง

ฉึก ปึก

“ฮึ่ยย ตายซะๆๆๆๆ”
เสียงประแจของนักผจญภัยคอสที่ฟาดมอนเตอร์ไปมา จนสลบไปหลายรอบ แต่ไม่นานพวกมันก็ฟื้นขึ้นมาใหม่ เพราะผลของคืนจันทร์เลือด ที่กระตุ้นให้พวกมันอยากลุกขึ้นมาอาละวาด โดยแทบไม่สนสภาพร่างกายของตัวเอง ราวกับเป็นผีดิบยังไงอย่างงั้น

“พวกมันยังมีมากขนาดนี้ แถมที่จัดการไปแล้วยังลุกขึ้นมาใหม่ได้เรื่อยๆ อีก แบบนี้ท่าจะไม่ไหวนะ” คอสออกความเห็น

ทางด้านเอ็กซ์ที่ซัมม่อนมอนเตอร์ออกมาใช้งาน ก็ต้องใช้พลังเพิ่มขึ้นอย่างหนักทีเดียว ในการควบคุมมอนเตอร์ เพื่อให้ใช้ในการต่อสู้ได้

กร๊าซซซซซซซซซซซซซ................
เสียงคำรามของสัตว์รับใช้เอ็กซ์ดังขึ้นเป็นจังหวะ มันช่วยข่มขวัญได้ทั้งมอนเตอร์รอบๆ และเหล่าการ์เดี้ยนด้วยกันเอง
“พอมันไม่เชื่องแบบนี้ ดูท่าจะควบคุมยากแล้วสิเนี่ย” เอ็กซ์เริ่มปาดเหงื่อไปมา

พีจังขยายกงเล็บของเธอให้มีขนาดใหญ่ และมีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากที่ฟาดไปกับเหล่ามอนเตอร์แล้ว จะเกิดประกายแสงสีแดง ซึ่งสร้างความทรมาณให้เป้าหมายอยู่มากที่เดียว แต่ว่าก็เพราะเธอเป็นศูนย์กลางที่ต้องคอยปกป้องนารูล่าด้วยนั้น ทำให้งานของเธอก็เรียกได้ว่าลำบากอยู่พอสมควร

“พวกหมาป่า… ฉันเกลียดพวกมันที่สุด...”

“นารูล่า ข้างหลัง ระวัง!” พีร้องเรียก ให้เด็กสาวหูในชุดฮูดหลบออกไป แล้วจึงควบคุมหางของตัวเอง ให้เปลี่ยนเป็นหมัดเพื่อโจมตีใส่หมาป่าสีเงิน ที่กำลังแยกเขี้ยวกระโจนเข้าใส่นารูล่าอยู่

ตึก!
นั่นทำให้หมาป่าตัวนั้น กระเด็นออกไปไกลประมาณ 5-6 เมตรเลยทีเดียว
“อ๊ะ ขอบคุณมากค่ะ”
“ไม่เป็นไร เชื่อมือฉันเถอะ”

“บางที แค่เราเองอาจจะไม่ไหว คงต้องเรียก ราเซลกับเอมิออกมาแล้วล่ะมั้ง” เธอเตรียมท่าที่จะทำพิธี แต่แล้วเด็กสาวก็ชะงักไป เหมือนกับพึ่งนึกอะไรบางอย่างออกมาได้

“ตอนนี้ เป็นจันทร์สีเลือดสินะ พลังของดวงจันทร์เลยถูกรบกวน มิน่า ตั้งแต่เมื่อกี้ ถึงไม่สัมผัสอะไรได้ถึงพลังของโลก The Doll ได้เลย พวกมันแก้ทางพลังของเราไว้แล้วงั้นเหรอ” พีหงุดหงิดที่ไม่ได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ แล้วเธอก็ตบมอนเตอร์งูเหลือม ที่พุ่งมาอย่างหน้าระบายอารมณ์ออกไป ทำให้มันกระเด็นออกไปราวๆ สองเมตร


แวมไพร์ลิซ กับการฟาร์มมอนเตอร์ในเวลากลางคืน ดูจะไม่เป็นเรื่องยากเท่าไรนัก เขาเร่งพลังในร่างกาย แล้วสร้างโซ่สีเงาแดง ขึ้นมาใหม่อีกเส้น ที่ได้จากมอนเตอร์ที่โดนฆ่าไปแล้ว ผสมหลอมรวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นกระบวนท่าแส้คู่ ที่โจมตีศัตรูที่พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทางได้อย่างรวดเร็ว และทั่วถึง

“ทำให้ฉันสนุกกว่านี้อีกสิ !”

ทวิน บลัด สตรอม !” ทั้งพวกออร์ค หมาป่า งูพิษ มอนเตอร์นก พวกเงา และอีกต่างๆ มากมายเหลือจะบรรยาย ต่างถูกสายเส้นของแส้ ที่ประกอบขึ้นจากข้อท่อของโซ่อันเล็กๆ ที่ถูกแปรสภาพมาจากเลือดให้แข็งตัวราวกับโลหะ นอกจากนี้ ที่ผิวของโซ่แต่ละชิ้น ยังมีหนามแหลมและเรียว ขนาดเล็กที่สังเกตด้วยตาเปล่าไม่เห็นอีกจำนวนมาก เมื่อโดนเข้าไป ก็จะยิ่งกระจายความเจ็บปวดจนต้องร้องทุรนทุราย

อ๊าคคค เอื้ออออ อั๊วะะะะ

“โซลิ รีบอาศัยจังหวะนี้ บุกโจมตีเข้าใส่ผู้หญิงคนนั้นเลย” ลิซให้แผนการ

“ได้เลย ขอบใจมาก”
เด็กชายตาสีแดง เร่งจังหวะฝีเท้า พลางขว้างมีดคู่ปักเข้าใส่มอนเตอร์โดยรอบที่ยังหลงเหลือ และเป็นอุปสรรคต่อเส้นทาง ในการพุ่งเข้าไปหาตัวกวีซ์ส

“ฮึ่ม มันจะไม่ง่ายแบบนั้นหรอกนะ” เธอโปรยมือลงไปที่พื้น และมันก็ทำให้เกิดร่างสีดำที่ไม่แน่นอน เคลื่อนไหวไปมาเหมือนของเหลวยึกยึย ปรากฎเป็นมอนเตอร์เงา หลายขนาด และจำนวนมาก ออกมาเป็นกำแพงให้เธอ และล้อมตัวโซลิเอาไว้ เพื่อถ่วงเวลาโซลิไว้อีกขั้น

“พวกเงาน่ะ ไม่ใช่เป็นแค่มอนเตอร์ธรรมดาน่ะ ยิ่งสู้กับพวกมันไปเรื่อย เจ้านี่จะยิ่งกัดกิดแผลในจิตใจ ของศัตรู รวมทั้งยังสร้างภาพลวงตา ให้อีกฝ่ายติดอยู่ในภวังค์ได้อีกด้วย” เธอโปรยสรรพคุณอันน่าใช้ของมอนเตอร์น่าเกลียดสีดำพวกนั้น

นั่นทำให้ครั้งนี้ โซลิรู้สึกได้ถึงอะไรที่แปลกประหลาดไปบางอย่าง

มีร่างของผู้หญิงหนึ่งที่เคยรู้จักอย่างคุ้นเคยคนนั้น ปรากฎตัวออกมา ถึงมันจะเลือนลางและไม่ชัดแค่ไหน แต่นั่นก็ทำให้เขาไม่มีทางลืมเธอได้

“ระ..รินต์ !”

“โซลิ อย่าทำร้ายฉันเลยนะ” เสียงที่ถูกสร้างเลียนแบบมาจากความทรงจำ ทำให้ดูสมจริงมากทีเดียว

“ม..ไม่ นั่นไม่ใช่เธอ เพราะตอนนี้เธอน่ะ..”

“โซลิ เธอจำฉันไม่ได้เหรอ”

“.....”


กวีซ์ส เริ่มหัวเราะอย่างชั่วร้าย เบาๆ เป็นจังหวะ หึๆๆ

“อ่าว การ์เดี้ยนที่เก่งนักเก่งหนา เจอแบบนี้เข้าไปก็คงจะทำอะไรไม่ได้สินะ”

“ไม่มีทาง วิธีรับมือกับของแบบนี้น่ะ ก็ต้องหลับตา แล้วใช้ใจมองเท่านั้น”
การ์เดี้ยนโซลิ หลับตาของตัวเองลง

“คิดจะหลับตา ระหว่างต่อสู้งั้นเหรอ...” นั่นทำให้กวีซ์ส มีอาการวิตกเล็กน้อย

“เธอคงจะไม่รู้อะไรสินะ ว่าคนที่เปิดตาเวลาสู้ข้างเดียว ทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลงไปครึ่งหนึ่ง เพราะแบบนั้น เลยจำเป็นต้องทดแทนความสามารถที่หายไปด้วยการต่อสู้ที่ต้องเพิ่มเพ่งเล็งสมาธิความสามารถในการรับรู้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และการที่หลับตาลง นั่นก็เท่ากับ แทบไม่มีอะไรต่างจากเดิมเลยยังไงล่ะ” โซลิพูด

“อะไรกัน...”

ใช่แล้ว พอหลับตาแล้ว สิ่งที่รับรู้ได้ รอบๆ ตัวก็มีเพียงแค่มอนเตอร์เท่านั้น แบบนี้ก็จัดการพวกมันต่อได้สบาย

การ์เดี้ยนโซลิเอาชนะภาพลวงตา และฟาดมอนเตอร์เงารอบๆ ตัวด้วยกระบี่คู่ไปที่ละตัวสองตัว จนจำนวนพวกมันเริ่มลดลง


“ไม่ได้การ เห็นทีคงต้องใช้พลังของตำราเวทย์ เล่มที่สองมาใช้แล้วสินะ” นักบวชสาวถอยตัวเองไปอีกหนึ่งก้าว เพื่อให้ห่างจากโซลิที่ขยับมาใกล้ตัวเธอเรื่อยๆ อีก 1 ระดับ พร้อมกับหยิบตำราเวทย์สีเหลือง ที่ถูกม้วนอยู่ ออกมากางเพื่อใช้งานทันที



========================================


แง นอยตัวเองที่ไม่สามารถปิดเรื่องให้อยู่ในตามกรอบได้ เลยคงต้องเพิ่มเนื้อหาอีก 1 ตอน และบางทีไม่แน่มันอาจจะเพิ่มไปเรื่อยๆ..

โอ๊ะ ก่อนจากลากันไป เผื่อใครยังไม่รู้ ตอนนี้ นยว : ภาค ภารกิจพิทิกษ์ราตรี มีแฟนอาร์ตแล้วด้วยนะ!!!

นี่ไง สำหรับภาพนี้ เป็นภาพของ กวีซ์ส น่ารักใสๆ วาดโดยท่าน DinnerFast ขอขอบคุณจริงๆ

เข้าไปดูกันได้ที่นี่ >>>> [FA นยว] | กวีซ์ส <<<<

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 2FAME +10 ย่อ เหตุผล
oSolitaryo + 5 เชรดดดโด้---
MONGONGAMER + 5 มาแย้วววววววววว

ดูบันทึกคะแนน

 
 มีนามว่าMONGONGAMER 
 สมาชิกคนที่106 
 เพศ 
 ระดับการอ่าน90 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Bascat (U)
เงาแมวดำ
     
โพสต์เมื่อ 2018-5-16 11:41:15 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ถ้ามีใครใช้เวทย์ธาตุแสงหรือธาตุมืดได้ล่ะก็ สามารถต่อกรกับพวกเงาได้ง่ายๆเลย
 
 มีนามว่าoSolitaryo 
 สมาชิกคนที่38 
 เพศ 
 ระดับการอ่าน90 
กระทู้ 
 ค่าประสบการณ์ 
 ทอง 
 ชื่อเสียง 
 ออนไลน์ 

คุณยังไม่ได้ใช้เหรียญ
กรุณาคลิกที่นี่เพื่อใช้เหรียญ

Snowlob (S) ★
Olivia
     
โพสต์เมื่อ 2018-5-16 14:33:32 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
มัน.. สุดๆอ่ะตอนนี้--- (นึกคำพูดไม่ออกประมาณว่า เชรดดด อ่ะ) /ให้คะแนนเต็มไปเลยสำหรับตอนนี้
12
กลับไป ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับโพสต์นี้ได้ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้